xs
xsm
sm
md
lg

ความจริงที่ซ่อนอยู่ : ปลาหมอคางดำ อันตรายจริงหรือ? โอกาสที่ถูกละเลย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มากกว่า 1 ปี ที่มีข่าวสารและข้อมูลออกมาย้ำๆ ให้ทุกคนเข้าใจว่า ปลาหมอคางดำ คือภัยร้ายต่อแหล่งน้ำไทย แต่นั่นเรากำลังมองปลาชนิดนี้ผ่านแว่นเลนส์เดียว มองเพียงมุมเดียว ว่าข้อมูลของปลาที่ถูกนำเสนอเป็นด้านลบเกือบทั้งหมด จนแทบไม่มีใครหยุดตั้งคำถามว่า “แท้จริงแล้ว ปลาหมอคางดำ เป็นภัยร้ายแรง หรือเป็นทรัพยากรที่ถูกมองข้าม?”

ปลาหมอคางดำ มีคุณสมบัติเด่นที่แพร่พันธุ์ได้เร็วกว่าปลาชนิดอื่น ดำรงชีวิตด้วยการกินอาหารได้หลายชนิด และทนต่อทุกสภาพแวดล้อม จึงเกิดเป็นความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำไทย เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่นักวิชาการด้านนิเวศจำนวนมากเห็นตรงกัน ว่าปลาหมอคางดำเป็นปลากินพืช ที่แพร่พันธุ์เร็วทำให้แย่งพื้นที่ปลาชนิดอื่น การระดมความร่วมมือและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อสร้างมูลค่าและใช้ประโยชน์จากปลา เป็นส่วนช่วยสร้างความสมดุลในระบบนิเวศ

แต่อีกด้านหนึ่ง งานวิจัยด้านอาหารและโภชนาการยืนยันว่า ปลาชนิดนี้บริโภคได้ ปลอดภัย มีโปรตีนสูง และมีกรดไขมันโอเมกา-3 และสามารถปรุงได้หลายเมนู อร่อย อีกทั้งราคายังเข้าถึงได้สำหรับผู้บริโภคทั่วไป หลายประเทศที่พบปลาชนิดนี้ได้ใช้วิธี “เพิ่มมูลค่า” โดยทำเป็นอาหารหรือแปรรูปใช้ประโยชน์จากปลาให้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อควบคุมจำนวนปลาไปพร้อมกับสร้างรายได้

ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ฟันธงได้ว่า “ต้นทาง” ของการแพร่พันธุ์ในประเทศไทยมาจากที่ไหน แม้จะมีการตั้งข้อสงสัย บริษัทที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย แต่คนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยรับทราบว่ายังมีบริษัทอีก 11 รายที่เคยส่งออกปลาหมอคางดำจากประเทศไทยไปต่างประเทศแต่บริษัทเหล่านี้กลับไม่มีหลักฐานขออนุญาตนำเข้ามาเพาะเลี้ยงตามกฎหมาย ขณะที่มีข้อบ่งชี้หลายประการว่า การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในประเทศไม่ได้เกิดจากแหล่งเดียว ซึ่งยังต้องอาศัยกระบวนการตรวจสอบหรือการสืบสวนเชิงนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดปัญหา ไม่ควรพุ่งเป้ากล่าวโทษหาคนผิด แต่ควรตั้งอยู่บนกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและต้นเหตุอย่างรอบด้าน โปร่งใสและเป็นกลาง เช่น การวิจัยโดยสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมและนิเวศ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ รวมทั้งการติดตามโดยหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นระบบ ควบคู่ไปกับการจัดการที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่การรับซื้อเพื่อลดจำนวนในธรรมชาติ การสร้างความรู้ให้เกษตรกรในการป้องกันไม่ให้ปลาหลุดหรือแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ใช้ระบบกรองน้ำก่อนนำน้ำเข้าบ่อเลี้ยง การสร้างการรับรู้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการบริโภคอย่างกว้างขวาง รวมไปถึงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่จะช่วยควบคุมประชากรปลาชนิดนี้ และฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน

บางที ‘ผู้ร้าย’ อาจกลายเป็นทรัพยากรมีคุณค่า เป็นโอกาส ถ้าเรามองให้ “รอบด้าน” และลงมือช่วยกันฟื้นฟูสมดุลธรรมชาติ สร้างอาหารมั่นคงและปลอดภัยให้แก่คนไทยทุกคน








กำลังโหลดความคิดเห็น