พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ยืนยันกระทรวงไม่ได้ปิดบังข้อมูลกรณีพิพาทชายแดนกับไทย โดยระบุว่าเหตุการณ์ปะทะที่ประชาชนโพสต์เกิดขึ้นคนละช่วงเวลากับการแถลงข่าวของกระทรวงฯ พร้อมยืนยันกองทัพกัมพูชาดำเนินการอย่างอดทนเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และย้ำว่าไม่มีผู้นำคนใดใช้ประชาชนเป็นโล่ และการเจรจาชายแดนกับไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (26 ส.ค.) พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ากระทรวงกลาโหมกำลังปิดบังข้อมูล โดยมีใจความเป็นภาษาไทยว่า
"โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้กำหนดการแถลงข่าววันละ 2 ครั้ง (เวลา 07.00 น. และ 16.00 น.) เพื่อสรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดน การประชุม การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง และข้อมูลทางทหารอื่นๆ
แต่มีบางคนบิดเบือนเนื้อหาการแถลงข่าวของกระทรวงฯ โดยระบุว่า "กระทรวงกลาโหมออกอากาศว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนสงบ แต่ประชาชนกลับโพสต์ว่ากำลังปะทะกับทหารไทย เรื่องราวเกี่ยวกับรั้วลวดหนามรุกล้ำดินแดนของประชาชน" ทำให้ประชาชนไม่รู้จะเชื่อฝ่ายไหน
ขอให้เข้าใจว่า กระทรวงกลาโหมแถลงสถานการณ์ในช่วงเวลา 00.00-06.00 น. ซึ่งสถานการณ์สงบ ส่วนการปะทะระหว่างประชาชนกับทหารไทยเกี่ยวกับเหตุการณ์รั้วลวดหนามเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.20 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่จังหวัดบันทายมีชัยและกองกำลังเจ้าหน้าที่ก็พร้อมแก้ไขปัญหา ในวันเดียวกันนั้น เพจกระทรวงกลาโหมก็เผยแพร่รายงานอีก 2 ฉบับทันที
ดังนั้น กระทรวงกลาโหมปกปิดข้อมูลไว้ตรงไหน?
ภาพถ่ายและวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราจะเห็นแต่ภาพคน แต่ถ้าเราถ่ายภาพอีกมุมหนึ่ง เราจะเห็นผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่จังหวัด รวมถึงกองกำลังที่ปกป้องชายแดน ดินแดน และประชาชนที่กำลังประท้วงบนผืนแผ่นดินของตน
ข้าพเจ้าขอแจ้งให้พี่น้องร่วมชาติทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. กองกำลังของเราได้ปกป้องประเทศชาติด้วยความอดทนอย่างที่สุด เพื่อดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง และหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางอาวุธที่จะนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สิน ญาติพี่น้อง ประชาชน และกองกำลังของเรา
ท่านสังเกตเห็นหรือไม่? กองกำลังของเราไม่ได้มีอาวุธในจุดเกิดเหตุ แต่เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างมีประสิทธิภาพ โปรดเข้าใจความรู้สึกของกองกำลังของเรา ณ ที่เกิดเหตุ และอดทนร่วมกันเพื่อประโยชน์ของชาติโดยรวม
เรายังคงมีการประชุมพิเศษของคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) ระหว่างกองทัพภาคที่ 4 ของเราและกองทัพภาคที่ 2 ของประเทศไทยในวันที่ 27 ส.ค. และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันที่ 9-10 ก.ย.
โปรดทราบว่า การปกป้องประเทศชาติและการปกป้องชายแดนไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย และข้อมูลไม่สามารถบิดเบือนได้ ไม่มีผู้นำคนใดใช้ประชาชนของตนเองเป็นโล่กำบัง หรือเบี้ยตัวหนึ่งเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง เหมือนผู้นำทรยศบางคนที่ใช้ชีวิตและนอนหลับอย่างสุขสบายในต่างแดน ประชาชนกัมพูชามีความเป็นมืออาชีพ อย่านำประเทศเข้าสู่สงครามเหมือนในอดีต"