”ณัฐพล“ สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนาม ที่บ้านหนองจาน ด้าน กต.ทำหนังสือประท้วง ย้ำเป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ส่วนพื้นที่พระวิหารพบเขมรเสริมกำลัง หากยิงเข้ามาหรือรุกล้ำให้ยิงได้ทันที
วันนี้(26 ส.ค.) พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้
พลเอก ณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้
ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป
ทั้งนี้ ยอมรับว่า กัมพูชามีเจตนาใช้ชาวบ้านมาปั่นป่วน และเห็นได้ว่าทหารกัมพูชาอยู่ทางด้านหลังอย่างชัดเจน จึงให้กองทัพภาคที่หนึ่งทำหนังสือประท้วงไปและและจะนำประเด็นนี้ไปหารือในที่ประชุมจีบีซีครั้งหน้าด้วย
อย่างไรก็ตามไปที่ประชุมจีบีซีที่ผ่านมา มีข้อตกลงว่าไทยและกัมพูชาจะติดต่อประสานงานกันตลอด ดังนั้นวันนี้เหตุการณ์อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ และเมื่อวานนี้ทางกองทัพภาคที่หนึ่ง รายงานว่าได้มีการพูดคุยเหตุการณ์จึงคลี่คลายลงได้ เพราะทางกัมพูชาเข้าใจว่าไทยไม่ได้ต้องการทำอะไร ที่จะเป็นการสกัดกั้นเพิ่มเติม เพียงแต่ป้องกันเฉพาะกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดไปพบกับประชาชน
พลเอก ณัฐพล กล่าวว่าได้รับรายงานว่าบริเวณพื้นที่เขาพระวิหาร มีการเพิ่มกำลังทหารของฝ่ายกัมพูชา จึงสั่งการให้ทหารไทยเตรียมพร้อม โดยปฏิบัติการควบคู่กันทั้งการเจรจาและการใช้กำลังทางทหาร เพราะจะไม่ยอมให้มีปฏิบัติการทางทหารในบริเวณพื้นที่ของอธิปไตยไทยเด็ดขาด ซึ่งหากมีการยิงเข้ามาก็สามารถตอบโต้ได้ทันที โดยหากมีการล่วงล้ำเข้ามาก็ต้องยิงตามอำนาจหน้าที่ และกฎการใช้กำลังของกระทรวงกลาโหมได้ให้อำนาจ กับผู้บัญชาการเหล่าทัพ และแม่ทัพภาคไว้แล้ว ไม่ใช่ว่าบอกให้หยุดยิง แล้วจะไม่ยิงเลย
ส่วนกัมพูชาจะนำเรื่องนี้มาตอบโต้ไทยหรือไม่ พลเอกณัฐพลกล่าวว่าเรื่องนี้ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ก็เตรียมความพร้อมไว้อย่างเต็มที่ ทุกวิถีทาง ขณะที่ในส่วนของประชาชน ทางกระทรวงมหาดไทยเตรียมศูนย์อพยพไว้รองรับแล้ว
ส่วนกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเจียเมียนเจย ของกัมพูชา ออกหนังสือ ส่งมายังผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ โดยเฉพาะสิทธิ์ในการครอบครองของกัมพูชา พลเอก ณัฐพล กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องแยกกัน เพราะการออกเอกสารสิทธิ์หรือการออกโฉนดเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย แต่เรื่องของความมั่นคง และการปกป้องอธิปไตยเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม ซึ่งถ้าเกี่ยวข้องกับการปกป้องอธิปไตยยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมไม่ยอมอยู่แล้ว