เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย
วันนี้ (26 ส.ค.) พล.อ.มนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วย พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เดินทางลงพื้นที่จุดตรวจ ส.34 บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตรงข้ามกับบ้านเตรยจัน ต.ห้า อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีมวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มกันเรียกร้องให้ฝ่ายไทยรื้อลวดหนาม โดยมี พ.อ.ปฏิวัติ เฟื่องประพัฒน์ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกองกำลังบูรพาพาเข้าชมจุด
สำหรับการเข้าชมจุดดังกล่าว ทางคณะได้พาชมพื้นที่แนวลวดหนามที่ฝ่ายไทยล้อมปิดกั้นไม่ให้ชาวกัมพูชาเข้ามารุกล้ำอธิปไตย โดยได้ชี้ให้เห็นถึงเขตแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน และจะเห็นว่าชาวกัมพูชามีการสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วจำนวน 18 หลังคาเรือน ซึ่งเป็นการรุกล้ำอย่างชัดเจน โดยคณะเสนาธิการทหารจะนำเรื่องนี้นำเสนอต่อไปยังที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา เพื่อให้ทางการกัมพูชาแก้ไขและลงมาดูแลประชาชนของตนเองโดยด่วน มิฉะนั้นทางการไทยถือว่ามีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย
ในระหว่างการลงพื้นที่ พล.อ.มนัสเรียกร้องไปยังนายฮุนเซน รักษาการประมุขแห่งกัมพูชา และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าจะจัดการปัญหาชาวเขมรที่รุกล้ำเเผ่นดินไทยตรงบ้านหนองหญ้าเเก้วอย่างไร เพราะทางการกัมพูชาบอกว่าหลักเขตของตนอยู่จุดหนึ่ง แต่ชาวกัมพูชาล้ำเข้ามาในดินแดนของไทยทั้งนั้น หากไม่จัดการเเก้ปัญหา ทหารไทยเตรียมวิธีการไว้แล้ว
ด้าน พ.ท.วันชนะกล่าวกับสื่อมวลชนว่า ขอส่งเสียงไปยังนายฮุนเซน และนายฮุน มาเนต ให้ลงมาดูแลประชาชน 18 ครัวเรือนของตนเองด้วย เนื่องจากเขตแดนที่ใช้อยู่ในขณะนี้เป็นเขตแดนที่ตกลงร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐของกัมพูชา-ไทย ใน MOU 43 จะเห็นได้ว่าชาวกัมพูชารุกล้ำเขตแดนไทยอย่างชัดเจน ทหารไทยมีสิทธิในการปกป้องอธิปไตยขับไล่ผู้บุกรุกออกจากประเทศไทยตามหลักมนุษยธรรมอย่างเข้มงวด
"ทหารได้กันพื้นที่บางส่วนออกไปแล้ว และได้ทำเส้นปฏิบัติการไว้ แต่ที่มีอยู่อย่างชัดเจน คือหมู่บ้านของเขมรที่ล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือของเส้นเขตแดนที่กัมพูชายอมรับเขาก็ล้ำอยู่ดี ดังนั้นเส้นที่ไม่ตรงกันนี้ต้องคุยกันเรื่องการปักปันเขตแดนอีกครั้งหนึ่ง แต่ที่แน่ๆ คือบ้านเรือนชาวเขมร 18 ครัวเรือนตรงนี้ยังไงก็ล้ำเข้ามาในดินแดนไทย ไม่ว่าจะยึดเส้นเขตแดนของฝ่ายไหนก็ล้ำอยู่ดี ส่วนชาวกัมพูชาที่มาชูป้ายจะทำความเข้าใจอย่างไรนั้น พูดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ" พ.ท.วันชนะกล่าวพร้อมกับชี้แผนที่
ส่วนทางด้านฝั่งกัมพูชา ได้มีมวลชนกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งเด็กถือป้ายประท้วงให้ฝ่ายไทยรื้อลวดหนาม กล่าวอ้างว่าฝ่ายไทยไม่ปฏิบัติตาม MOU 43 เห็นได้ชัดเจนว่าประชาชนที่มาในวันนี้อาจจะไม่ได้รู้ข้อมูลเรื่องหลักเขตแดนที่แท้จริง นั่นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลกัมพูชาที่จะต้องสื่อสารข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป