คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจานสำรวจหมู่บ้านเขมรปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านโอดอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้จบโดยเร็ว เข้าไปทำกินในพื้นที่ตัวเองไม่ได้ ด้าน กต.ยืนยันอยู่ในอาณาเขตของไทย เคยยื่นหนังสือประท้วงหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง
วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ประกอบด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงสภาพพื้นที่หลักเขตที่ 46-47 ที่อยู่ด้านในเขตอธิปไตยไทย โดยกองกำลังบูรพาได้มีการบรรยายสรุปเส้นปฏิบัติการตามแผนที่ 1 : 50,000 สภาพบ้านเรือนร้างของชาวกัมพูชาที่สร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวเดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งหอบเอกสารสิทธิถึอครองที่ดิน ตั้งใจจะมาแสดงให้คณะได้รับทราบปัญหาพร้อมเล่าว่าทำมาหากินไม่ได้ เพราะชาวกัมพูชาที่อพยพมาอยู่ขับไล่ และมีการตั้งฐานของทหาร ตอนนี้เดือดร้อนหนัก อยากบอกรัฐบาลให้เร่งจัดการให้จบ
วันเดียวกัน นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แถลงข่าวยืนยันว่าพื้นที่บ้านหนองจานอยู่ใน จ.สระแก้ว ของไทย ซึ่งในอดีตได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงครามเมื่อปี 2524 แต่ต่อมาฝ่ายกัมพูชากลับขยายพื้นที่ชุมชนออกไป ซึ่งถือว่าละเมิด MOU 2543 โดยฝ่ายไทยจำเป็นต้องวางลวดหนามในเขตไทย เพื่อปกป้องอธิปไตย คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงป้องกันการลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด พร้อมทั้งยืนยันว่าการกระทำของกองทัพไทยไม่ขัดต่อข้อตกลงหยุดยิง
ด้านนายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กต. เปิดเผยว่า พื้นที่บ้านหนองจานตั้งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ซึ่งเป็นแนวเขตแดนตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสปี 1907 โดยหลังจากสงครามในกัมพูชาสิ้นสุดแล้ว ชาวกัมพูชาเหล่านี้ยังคงเข้ามาก่อสร้างที่อยู่อาศัยและขยายที่ดินทำกินจนออกนอกแนวรั้วที่กำหนด นอกจากนี้ยังมีการตั้งที่ทำการของหน่วยงานทางการกัมพูชาและเชิญธงชาติกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายยืนยันว่า ที่ผ่านมาฝ่ายไทยไม่ได้นิ่งนอนใจและดำเนินการทักท้วงมาโดยตลอด ทั้งขอให้ชาวกัมพูชาย้ายออกและดูแลไม่ให้ขยายที่ดินทำกินเพิ่มเติมอีก แต่ฝ่ายกัมพูชากลับไม่ตอบสนองใดๆ รวมถึงเคยอ้างว่าขอตรวจสอบแนวหลักเขตแดนให้แน่ชัดก่อน ซึ่งการกระทำเหล่านี้ขัดต่อ MOU 2543 พร้อมทั้งยืนยันว่ากรณีบ้านหนองจานไม่กระทบต่อกระบวนการปักปันเขตแดนร่วมกันที่ยังคงดำเนินต่อไป