xs
xsm
sm
md
lg

รพ.นเรศวร แจงปมบริจาคผู้ป่วยมะเร็ง ยันรักษามตามสิทธิ ไม่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดราม่าบริจาคช่วยผู้ป่วยมะเร็งพลิก รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวรออกโรงแจง ยันผู้ป่วยได้รับการรักษาตามสิทธิ ไม่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่ม

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "CarBew Donlaya" ได้โพสต์ข้อความขอรับบริจาคเงินเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 ชนิดรุนแรง โดยระบุถึงความจำเป็นในการใช้ "ยามุ่งเป้า" ที่มีราคาสูง รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นในการรักษา พร้อมเปิดเผยว่าตนเองต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้าและโรคแพนิคมานานกว่า 8 ปี ทำให้ไม่สามารถทำงานได้และขาดรายได้ ส่งผลให้เงินเก็บทั้งหมดถูกใช้ไปกับการรักษาจนหมดสิ้น โดยมีเพียงมารดาผู้สูงอายุคอยดูแล

โพสต์ดังกล่าวได้ระบุรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ยามุ่งเป้าจำนวน 18 เข็ม เข็มละ 30,000 บาท (ไม่รวมประกันสังคม) รวมเป็นเงินประมาณ 520,000 บาท รวมถึงค่ายากระตุ้นเม็ดเลือดขาวครั้งละ 7,000 บาท (ไม่รวมประกันสังคม) ซึ่งการขาดเงินทำให้ต้องเลื่อนการรักษาออกไป และเกรงว่ามะเร็งจะลุกลามจนถึงระยะสุดท้าย ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจเปิดรับความช่วยเหลือจากสังคมเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว โดยจะปิดรับบริจาคทันทีเมื่อยอดเงินเพียงพอ

ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก ทำให้มีการโอนเงินช่วยเหลืออย่างล้นหลาม โดยคาดการณ์ว่ายอดบริจาคอาจทะยานไปถึงหลักล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เพจ "จ๊อกจ๊อก" ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติของกรณีนี้ โดยระบุว่า "เจตนาดูก็รู้แล้วว่าจะสื่อสารว่าอะไรในตอนแรก อย่าคิดว่าดูไม่ออก ตั้งใจโยกเงินออกเพื่อดูยอดใกล้เคียงกับที่รับบริจาค แต่โป๊ะไง ไม่เนียน เงินบริจาคมีสิทธิ์โยกย้ายให้คนอื่นแบบนี้ด้วยหรอ อ้างว่าให้แม่เก็บไว้ แล้วบัญชีตัวเองเก็บไว้ไม่ได้เหรอกลัวปลวกขึ้นเงินหรอ" ซึ่งก่อให้เกิดคำถามและความสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสในการบริหารจัดการเงินบริจาค

ด้านผู้โพสต์ขอรับบริจาคได้ออกมาโต้แย้งข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนยันว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งจริงตั้งแต่เดือนเมษายน มีใบรับรองแพทย์ยืนยัน และมีการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพจริงตามที่ระบุในโพสต์ พร้อมยืนยันว่าจะมีการอัปเดตอาการให้ทราบ แต่เพื่อความสบายใจของทุกคน จึงขอปิดรับการช่วยเหลือ ทั้งยังกล่าวถึงประเด็นทางคดีที่เป็นการหมิ่นประมาทซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของศาล โดยยังไม่มีการเรียกเก็บเงินใดๆ ทั้งสิ้น และย้ำว่าการรับบริจาคครั้งนี้เพื่อนำมารักษาตัวจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากกระแสความสงสัยเริ่มชัดเจนขึ้น ได้มีผู้บริจาคหลายรายพยายามติดต่อขอเงินคืนจากเจ้าตัว ทั้งทางคอมเมนต์และข้อความส่วนตัว แต่กลับพบว่าบางรายถูกบล็อกทันที ทำให้ประเด็นนี้ยิ่งทวีความซับซ้อนและสร้างความกังวลใจให้กับผู้ที่ตั้งใจช่วยเหลือด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ขณะนี้เรื่องราวดังกล่าวยังคงเป็นที่ถกเถียงและจับตามองจากสังคมอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางคำถามถึงความโปร่งใสในการขอรับบริจาค และการบริหารจัดการเงินที่ได้รับมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการช่วยเหลือผู้ป่วยในอนาคต หากไม่มีการชี้แจงที่ชัดเจนและหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (16 ส.ค.) “คณะแพทยศาสตร์ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร” ออกชี้แจงในประเด็นดังกล่าวด้วยโดยได้ระบุข้อความว่า

“ประกาศชี้แจง รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร กรณีมีผู้ใช้ Facebook โพสต์ภาพและข้อความการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และขอรับบริจาคเงิน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ ข้อเท็จจริง เรื่องการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิที่ถูกต้อง จึงเรียนชี้เเจงดังนี้

จากกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีลักษณะของผู้ที่อ้างถึงว่าเป็นผู้ป่วยที่กำลังรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับมีการลงภาพถ่ายใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และมีการขอรับบริจาคเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษานั้น

ทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้เข้ารับการรักษา และได้รับยาตามแนวทางมาตรฐาน เป็นไปตามสิทธิการรักษาของผู้ป่วย โดยไม่ได้มีการเรียกเก็บค่ายา ค่ารักษา ที่เบิกได้ตามเกณฑ์ข้อบ่งชี้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยรายดังกล่าว

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ขอยืนยันถึงความมุ่งมั่น ในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพที่ดี การดูแลรักษาที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และการปฏิบัติตามแนวทางของ การให้การรักษาตามสิทธิ์การรักษาที่พึงได้ในแต่ละสิทธิ์การรักษาของผู้ป่วยทุกท่าน

รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
16 สิงหาคม 2568”






กำลังโหลดความคิดเห็น