ศาสตราจารย์เขมรออกโรงป้องพ่อลูกตระกูลฮุน ยันไม่ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญกัมพูชาเพราะไม่ได้รุกรานใคร โบ้ยไทยยิงก่อน กัมพูชาป้องกันตนเอง ไม่ได้เล็งเป้าหมายใส่พลเรือนไทย แถใช้แผนที่ 1:200,000 ก็ไม่ผิด แต่ไม่อธิบายให้ชัดว่าไม่ผิดยังไง
หลังจากนายปริญญา เทวนฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญของกัมพูชา
มาตรา 52 ที่ห้ามรุกรานประเทศอื่น และมาตรา 2 ที่ระบุให้อาณาเขตของประเทศเป็นไปตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 100,000 ที่ทำขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2476-2496 ไม่ใช่แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ที่นายฮุนเซนและฮุน มาเนตเอามาอ้างในการแบ่งปันอาณาเขตกับไทย แล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (4 ส.ค.) สำนักข่าว Kampuchea Thmey Daily อ้างคำให้สัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ วงษ์ มกรา นักวิเคราะห์การเมืองของกัมพูชา ที่ระบุว่า เหตุผลของนายปริญญา เทวนฤมิตรกุล นั้นเป็นเท็จและไม่มีมูลความจริง เนื่องมาจากประการแรก กัมพูชาไม่ได้รุกรานประเทศไทย ในเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กองทัพไทยได้เริ่มยิงใส่กองทัพกัมพูชาก่อน กองทัพกัมพูชาได้ใช้สิทธิในการป้องกันตนเองภายในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานของกองทัพไทยที่ละเมิดดินแดนกัมพูชา กัมพูชาป้องกันตนเอง ไม่ได้มีเป้าหมายที่พลเรือนไทยผู้บริสุทธิ์ แต่เป็นเพียงเป้าหมายทางทหารไทยที่โจมตีอย่างก้าวร้าวและละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา
ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ว่ากัมพูชาไม่เคารพมาตรา 52 ของรัฐธรรมนูญโดยการรุกรานประเทศไทยจึงไม่ถูกต้อง และเป็นข้อกล่าวหาเรื่องความรักชาติที่ไม่มีมูลความจริง รัฐบาลกัมพูชายึดมั่นในนโยบายการอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมาโดยตลอด กัมพูชาจะไม่รุกรานประเทศใด จะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าในรูปแบบใด และจะแก้ไขปัญหาทั้งหมดโดยสันติ โดยยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศและเคารพผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
ประการที่สอง ในการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้เลือกและใช้แผนที่แนบท้ายสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ค.ศ. 1904 และ 1907 ในมาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งจัดทำโดยคณะกรรมการชายแดนฝรั่งเศส-สยาม และแผนที่แนบท้ายนี้ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝ่ายไทยได้ยกระดับแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ซึ่งเป็นแผนที่ที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายเดียวโดยไม่มีการรับรองในระดับสากล โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาได้แสดงจุดยืนที่หนักแน่นในการปฏิเสธการใช้แผนที่ที่ไทยจัดทำ
ศาสตราจารย์ วงษ์ มกรา กล่าวอีกว่า ส่วนแผนที่มาตราส่วน 1:100,000 ที่ระบุไว้ในมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (ซึ่งจำกัดเฉพาะแผนที่มาตราส่วน 1:100,000 ที่สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2476-2496 และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลระหว่างปี พ.ศ. 2506-2512) ถือเป็นมาตราส่วนสำหรับการเปรียบเทียบความยาวบนกระดาษแผนที่กับความยาวจริงบนพื้นดิน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญกัมพูชาระบุไว้เพียงว่า “The territorial integrity of the Kingdom of Cambodia shall never be violated within its borders as defined in the 1/100,000 scale map made between the years 1933-1953, and internationally recognized between the years 1963-1969.”
แปลว่า “บูรณภาพแห่งอาณาเขตของราชอาณาจักรกัมพูชาต้องไม่ถูกล่วงละเมิดภายในเขตแดนที่กำหนดด้วยแผนที่อัตราส่วน 1:100,000 ที่ทำขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1933-1953 และได้รับการยอมรับจากนานาชาติระหว่างปี 1963-1969” ซึ่งไม่มีส่วนใดที่เปิดช่องให้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งเป็นแผนที่แนบท้ายสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ค.ศ. 1904 และ 1907 เลย แต่ศาสตราจารย์ วงษ์ มกรา ก็ไม่ได้อธิบายว่าการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ไม่ผิดรัฐธรรมนูญอย่างไร
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ วงษ์ มกรา เคยเขียนบทความยกย่องเชิดชูนายฮุนเซนว่าเป็นผู้นำกัมพูชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของกัมพูชา ช่วง 500 ปีหลังยุคนครวัด