“ปานเทพ-พ่อเลี้ยงเจ” เผยเบื้องหลังสถานการณ์ความขัดแย้งที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ชัดการปรากฏตัวของโดรนกามิกาเซ่ที่เชื่อว่ามาจากรัสเซีย พร้อมเปิดโปงการฟอกเงินและจ้างนักรบรับจ้างผ่านเครือข่ายกาสิโนใต้ดินที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
วันนี้ (30 ก.ค.) รายการออนไลน์ชื่อดัง “พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร” เผยแพร่คลิปวิดีโอชุดใหม่ในหัวข้อ “อเมริกาว่าไง!? เขมรเทา เจ้าของ Scammer จ้างทหารรับจ้าง ใช้โดรนคามิคาเซ่ใส่ไทย” โดยมี อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มาร่วมรายการ
วิดีโอคลิปที่กำลังได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ได้เปิดเผยข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่ามีการใช้ “โดรนกามิกาเซ่” จากฝั่งกัมพูชา ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นแบบที่ผลิตโดยรัสเซีย สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ภายในที่กองทัพกัมพูชากำลังเผชิญกับความอ่อนแอลงอย่างชัดเจน
ในคลิปยังตั้งข้อสังเกตว่ากัมพูชาอาจกำลังพึ่งพาทรัพยากรจากธุรกิจใต้ดินและแหล่งทุนสีเทา โดยเฉพาะการฟอกเงินผ่านเครือข่ายกาสิโนในพื้นที่พิพาท เพื่อใช้ในการจัดซื้ออาวุธ จ้างนักรบรับจ้าง และดำเนินปฏิบัติการทางทหารที่ยืดเยื้อ
ในวิดีโอได้มีการเสนอทางออกอย่างเร่งด่วน 2 แนวทาง ได้แก่ 1. การเร่งสร้างและส่งมอบระบบต่อต้านโดรน (Anti-Drone) ให้แก่พื้นที่แนวหน้าโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเปิดรับบริจาคจากภาคประชาชนเพื่อสนับสนุนภารกิจดังกล่าว ซึ่งมีกำหนดการถึงวันศุกร์นี้ 2. การจัดการกับแหล่งทุนผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกาสิโนที่เป็นจุดศูนย์กลางของกระบวนการฟอกเงินและการจัดจ้างกำลังพลรับจ้าง ซึ่งผู้พูดย้ำว่าต้องมีมาตรการเด็ดขาดเพื่อ "ตัดไฟแต่ต้นลม" มิให้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ขณะเดียวกัน ยังอ้างถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่มีการตรวจพบโดรนบินในเวลากลางคืนบริเวณภูมิกระเทียม ทำให้ทหารและชาวบ้านในพื้นที่หวาดผวา แม้จะยังไม่พบการติดอาวุธโดยตรง แต่มีความเป็นไปได้ที่โดรนเหล่านี้ถูกใช้เพื่อจับพิกัดเป้าหมาย ก่อนจะมีการโจมตีในลำดับถัดไป
ท้ายที่สุด ได้พาดพิงถึงความเชื่อมโยงของนักการเมืองบางกลุ่มที่มีส่วนร่วมในการผลักดันธุรกิจกาสิโนฝั่งกัมพูชา ซึ่งกำลังย้อนกลับมาสร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตประชาชนและกำลังพลของไทย พร้อมตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของอาหารและเสบียงที่เคยอนุญาตให้ส่งข้ามแดน ซึ่งอาจกลายเป็นการสนับสนุนฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ตั้งใจ
เสียงสะท้อนในคลิปครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นการเตือนภัยจากชายแดนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการตั้งคำถามต่อโครงสร้างอำนาจและผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงในเร็ววัน