กรมการท่องเที่ยว (DOT) เปิดเผยตัวเลขยอดเงินคืนกองถ่ายทำหนังต่างประเทศ จากมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (Incentive Measures) ปีงบประมาณ 2567 กว่า 509 ล้านบาท จากภาพยนตร์ 15 เรื่อง ซึ่งสร้างรายได้ให้ประเทศไทย 2,876 ล้านบาท เกิดการจ้างงานบุคลากรในธุรกิจภาพยนตร์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มากกว่า 43,000 ราย
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “มาตรการ Incentive เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในการนำเงินเข้ามาลงทุนถ่ายทำในประเทศไทย ที่ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกคิดค้นมาตรการจูงใจในรูปแบบต่างๆ เพื่อดึงดูดให้ผู้สร้างภาพยนตร์เข้ามาลงทุนในประเทศของตน เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไอซ์แลนด์ อินเดีย กรีซ ที่มีมาตรการในรูปแบบ Cash Rebate หรือฮังการี ฝรั่งเศส ที่จัดทำในรูปแบบ Tax Rebate และออสเตรเลีย สเปน อังกฤษ ที่มีมาตรการในรูปแบบ Tax Credit สำหรับประเทศไทย กรมการท่องเที่ยว โดยกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (TFO Thailand Film Office) หน่วยงานที่มีภารกิจส่งเสริมและสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักร ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างแรงจูงใจให้กับกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ด้วยมาตรการ Incentive ร้อยละ 15-20 ซึ่งปัจจุบันมาตรการดังกล่าวได้รับการยอมรับจากนานาประเทศว่ามีความน่าเชื่อถือ จ่ายเร็ว และจ่ายจริง”
มาตรการ Incentive ของประเทศไทยในรูปแบบ Cash Rebate ประกาศใช้เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นมาตรการที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศว่ามีประสิทธิภาพ ไม่ซับซ้อน กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศที่ประสงค์ขอรับสิทธิประโยชน์การคืนเงินจากมาตรการดังกล่าว จะต้องมีค่าใช้จ่ายในประเทศไทย ซึ่งจ่ายให้กับบุคคลหรือนิติบุคคลไทยตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป และเข้าเงื่อนไขต่างๆ ตามที่กำหนด สามารถรับเงินคืนสูงสุดร้อยละ 20 โดยจำกัดวงเงินคืนไม่เกิน 150 ล้านบาทต่อเรื่อง สำหรับปี 2567 นี้ มีภาพยนตร์ ซีรีส์ และรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงได้รับเงินคืนแล้ว เช่น ภาพยนตร์ไซไฟโลกอนาคต The Creator ซีรีส์ภาคต่อชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา S.W.A.T. season 6 ภาพยนตร์ฉลามยักษ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมทั่วโลก Meg 2 : The Trench ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดีที่ถ่ายทอดความสวยงามของเมืองภูเก็ต Mother of the Bride และมินิซีรีส์ดราม่าตลกแนวประวัติศาสตร์ The Sympathizer
อธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ขณะนี้ยังมีภาพยนตร์ต่างประเทศและซีรีส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ยื่นความประสงค์ขอรับเงินคืนตามมาตรการ Incentive อีกจำนวนกว่า 22 เรื่อง คาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้มากกว่า 7,053 ล้านบาท ถือเป็นการตอกย้ำว่าประเทศไทยมีศักยภาพ มีความพร้อมในการรองรับกองถ่ายทำภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่มีเงินลงทุนถ่ายทำสูง และเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ในระดับภูมิภาค”
กรมการท่องเที่ยวพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมมาตรการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (Incentive Measures) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้มากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจ สร้างงานให้บุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สามารถกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น รวมถึงผลักดัน Soft Power วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยไปสู่สายตาผู้ชมภาพยนตร์ทั่วโลก และเกิดการท่องเที่ยวตามรอยสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่อไป