วันนี้ (25 กันยายน 2567) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบโล่ และตรารับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยมี นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการ MEA นายราเชนทร์ อันเวช ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA และหัวหน้าหน่วยงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฯ ร่วมรับรางวัลศูนย์ราชการสะดวก ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
ในปีนี้ MEA สามารถคว้ารางวัลการตรวจประเมินมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 2567 อันทรงเกียรติ จำนวน 9 ศูนย์ ได้แก่ ระดับเป็นเลิศ 2 ศูนย์ (จากจำนวนผู้ที่ได้รางวัลทั้งประเทศ 4 ศูนย์ โดย MEA เป็นรัฐวิสาหกิจรายเดียวที่ได้รับรางวัลในระดับดังกล่าว) ระดับก้าวหน้า 6 ศูนย์ และระดับพื้นฐาน 1 ศูนย์ ดังนี้
ระดับเป็นเลิศ
1. การไฟฟ้านครหลวงเขตคลองเตย
(ได้รับรางวัลต่อเนื่อง 2 ครั้ง จากระดับก้าวหน้าเป็นระดับเป็นเลิศ)
2. การไฟฟ้านครหลวงเขตสมุทรปราการ
(ได้รับรางวัลต่อเนื่อง 2 ครั้ง จากระดับก้าวหน้าเป็นระดับเป็นเลิศ)
ระดับก้าวหน้า
1. การไฟฟ้านครหลวงเขตบางเขน
(ได้รับรางวัลต่อเนื่อง 2 ครั้ง จากระดับพื้นฐาน เป็นระดับก้าวหน้า)
2. การไฟฟ้านครหลวงเขตบางนา
(ได้รับรางวัลระดับก้าวหน้าต่อเนื่อง 2 ครั้ง)
3. การไฟฟ้านครหลวงเขตบางพลี
4. การไฟฟ้านครหลวงเขตบางใหญ่
(ได้รับรางวัลระดับก้าวหน้าต่อเนื่อง 2 ครั้ง)
5. การไฟฟ้านครหลวงเขตยานนาวา
(ได้รับรางวัลระดับก้าวหน้าต่อเนื่อง 2 ครั้ง)
6. การไฟฟ้านครหลวงเขตลาดกระบัง
(ได้รับรางวัลระดับก้าวหน้าต่อเนื่อง 2 ครั้ง)
ระดับพื้นฐาน
1. การไฟฟ้านครหลวงเขตบางขุนเทียน
(ได้รับรางวัลระดับพื้นฐานต่อเนื่อง 2 ครั้ง)
ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะผู้ให้บริการด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ การได้รับรางวัลในครั้งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของ MEA ในการยกระดับคุณภาพบริการ ณ ที่ทำการไฟฟ้านครหลวงเขตทุกแห่ง ให้มีความสอดคล้องกับการใช้บริการของผู้ใช้ไฟฟ้าที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย ผ่านการคิดค้นนวัตกรรม และปรับใช้เทคโนโลยีในการให้บริการที่ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าเกิดความประทับใจในการใช้บริการ ด้วยแนวทางการดำเนินงานของ MEA ที่ให้ความสำคัญต่อประชาชนเป็นศูนย์กลาง ลดระยะเวลาของประชาชนในการมาติดต่อราชการ สามารถติดต่อสอบถามงานที่เกี่ยวข้อง ณ ที่แห่งเดียวได้ในทุกเรื่อง ปีนี้ MEA จึงสามารถคว้ารางวัลระดับเป็นเลิศมาได้ 2 ศูนย์ จากการไฟฟ้านครหลวงเขตคลองเตย และการไฟฟ้านครหลวงเขตสมุทรปราการ ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านการพัฒนาบริการแบบเชิงรุก และการพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมการให้บริการ สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย ตลอดจนมีการพัฒนานวัตกรรม และบริการด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าที่ช่วยเสริมให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง ปลอดภัย ตอบสนองงานด้านบริการให้แก่ประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยผลงานนวัตกรรมที่โดดเด่น ได้แก่
1. นวัตกรรม Intersection Method และ เทคนิค % Bride Method เป็นเทคนิคที่ช่วยลดระยะเวลาการหาตำแหน่งชำรุดของสายไฟฟ้าใต้ดิน ช่วยให้การแก้ไขระบบไฟฟ้าใต้ดินขัดข้องได้รวดเร็วมากขึ้น
2. นวัตกรรม คลินิกค่าไฟฟ้า ช่วยลดระยะเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าพร้อมออกรายงานแบบ e-Report ได้ในคลิกเดียว
3. นวัตกรรม ระบบจ่ายงานใส่สายด่วน ที่มีการพัฒนา Application สำหรับแจ้งเตือนงานจ่ายไฟฟ้าคืนให้ผู้ใช้ไฟฟ้าแบบ Real-Time ช่วยให้จ่ายไฟฟ้าคืนให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
การได้รางวัลในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการการันตีถึงงานบริการที่ MEA ส่งมอบแก่ประชาชนแล้ว ยังเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ MEA รักษามาตรฐานและพัฒนาการให้บริการสู่ระดับเป็นเลิศอย่างต่อเนื่องต่อไป
อย่างไรก็ตาม นอกจากการพัฒนางานบริการให้เป็นเลิศ MEA ยังมีแผนที่จะพัฒนาต่อยอด service ในอนาคตด้วยบริการ Convergence Service เพื่อเชื่อมโยงการให้บริการกับ Partner เช่น การประปา สามารถขอน้ำ ขอไฟ ได้ในที่ทำการเดียว และการพัฒนาด้านงานบริการออนไลน์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกงานบริการทุกประเภทของ MEA การพัฒนาช่องทางการติดต่อเพื่อขอรับบริการ การให้คำปรึกษา และการร้องเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน MEA Smart Life ที่มีบริการตรวจสอบค่าไฟฟ้า ตรวจสอบประวัติการใช้ไฟฟ้า แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้องต่างๆ และ MEA Line Connect ที่ช่วยให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเข้าถึงบริการของ MEA ได้ตลอด 24 ชั่วโมง