กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเฟ้นหาธุรกิจที่มีธรรมาภิบาลเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมจัดพิธีเชิดชูเกียรติโดยมอบโล่รางวัลและหนังสือรับรองการันตีว่าเป็นธุรกิจเมล็ดพันธุ์ชั้นดีของไทยในงาน “พิธีเชิดชูเกียรติธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ประจำปี 2567” เพื่อเสริมสร้างกำลังใจในการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมสนับสนุนให้เป็นต้นแบบแก่ธุรกิจรายอื่น
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเชิดชูเกียรติธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ประจำปี 2567 ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ส่งเสริมพัฒนาภาคธุรกิจของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยหล่อหลอมให้ธุรกิจมีมาตรฐานด้านธรรมาภิบาล ดำเนินงานโดยไม่มุ่งแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการใช้นวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นจุดแข็งและข้อแตกต่างที่จะช่วยให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินกิจกรรมสร้างธุรกิจ SME เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีธุรกิจผ่านเกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจทั้งสิ้นแล้วจำนวน 250 ราย และในปี 2567 นี้ มีธุรกิจสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศรวม 78 ราย โดยมาจากหลากหลายสาขาธุรกิจทั้งภาคการผลิต การบริการ การเกษตร และการค้าส่ง-ค้าปลีก ซึ่งในจำนวนนี้มีธุรกิจที่สามารถผ่านด่านการพิจารณาคัดเลือกอย่างเข้มข้นจากคณะกรรมการกำกับมาตรฐานธรรมาภิบาลที่มีผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมธุรกิจให้มีธรรมาภิบาลเป็นร่วมกันทำหน้าที่กำหนดเกณฑ์การตรวจประเมินไว้ 6 หลัก ได้แก่ 1) หลักนิติธรรม 2) หลักคุณธรรม 3) หลักความโปร่งใส 4) หลักการมีส่วนร่วม 5) หลักความรับผิดชอบ และ 6) หลักความคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการกลั่นกรองอีกหลายลำดับชั้น ทั้งด้านงานตรวจสอบเอกสารการสัมภาษณ์ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท การลงพื้นที่ตรวจประเมิน ณ สถานประกอบการ การตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาลฎีกา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานประกันสังคมจนได้ธุรกิจเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจทั้งสิ้นจำนวน 70 ราย แบ่งเป็นธุรกิจรายใหม่ 34 รายและธุรกิจที่ครบระยะเวลาต่ออายุหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจอีก 36 ราย
อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การประเมินฯ จะได้รับโล่และหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมสร้างธุรกิจ SME เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ประจักษ์ โดยกรมฯ จะช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ธุรกิจที่ได้รับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจให้เป็นที่ตระหนักรู้แก่สาธารณชนผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ของกรมฯ ซึ่งหนังสือรับรองฯ ที่ได้รับจะมีอายุนาน 3 ปี ธุรกิจสามารถนำเครื่องหมายรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจไปใช้ร่วมกับเครื่องหมายการค้า นอกจากนี้ในหนังสือรับรองนิติบุคคลของธุรกิจ กรมฯ ยังได้ระบุหมายเหตุข้อความรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจให้ด้วย เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจต่อคู่ค้าและประชาชนอีกด้วย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอแสดงความยินดีกับธุรกิจรายใหม่ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ จนได้รับโล่รางวัลและหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจเพิ่มในปีนี้ทั้ง 34 ราย ขอให้ธุรกิจของท่านเจริญเติบโต มีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ และเป็นต้นแบบที่สง่างาม เพื่อเป็นพลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
