หนังฝังมุก ร่ายยาวแจงประเด็นดรามายืมเงินไม่คืน ชี้ทุกอย่างเกิดจากภรรยา ยันตนเองไม่เคยมีส่วนร่วมกับการยืมเงินครั้งนี้ โอดตอนนี้สูญเสียทุกอย่าง ด้านชาวเน็ต-เพจดังแห่ให้กำลังใจเพียบ
จากกรณีมีรายงานว่าเพจรีวิวหนังชื่อดัง มีดรามายืมเงินแล้วไม่คืนและฉ้อโกง จนมีชาวเน็ตสืบทราบว่าเป็นเพจ "หนังฝังมุก" ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน
ล่าสุดวันนี้ (15 ส.ค.) เพจ "หนังฝังมุก" ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงในประเด็นดรามาดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า
"ผมเชื่อมาเสมอว่าพื้นฐานของครอบครัวคือความรักและเชื่อใจในกันและกัน จนกระทั่งรู้ตัวคิดผิด ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อว่าผู้ชายควรเป็นฝ่ายหาเงินและไว้ใจให้ภรรยาดูแลการเงินในครอบครัว แต่สิ่งที่ผมไม่รู้เลยตลอดหลายปีที่เราสองคนทำเพจร่วมกันมา โดยที่ผมเป็นคนสร้างคอนเทนต์และวางใจให้ภรรยาดูแลในส่วนของการตอบข้อความ รวมถึงการติดต่อสื่อสารต่างๆ หรือเรียกว่าเป็นผู้จัดการเพจ
เธอใช้เครดิตจากการร่วมเป็นแอดมินในเพจ เข้าร่วมกิจกรรมและสนิทกับแอดมินเพจต่างๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ต่างจากผมที่ค่อนข้างเก็บตัวไม่ออกไปทำความรู้จักกับใคร ช่วงที่จัดปาร์ตี้แอดมินเมื่อหลายปีก่อนผมไม่เคยไปร่วมกิจกรรมเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่งมารู้จักกับแอดมินเพจต่างๆ ในภายหลังซึ่งก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จากการที่ภรรยาเป็นคนแนะนำให้รู้จัก
ขออธิบายตรงนี้ก่อน ถึงแม้ว่าเราสองคนจะเป็นสามีภรรยา แต่ความสัมพันธ์ของเราค่อนข้างแปลกกว่าคนทั่วไป คือเรายินดีแยกกันอยู่คนละจังหวัด ประมาณ 3-4 เดือนถึงจะกลับมาเจอกัน และเราไม่มีลูก ซึ่งเป็นความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย ชีวิตคู่ของเราดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยจนกระทั่งหลังมีการระบาดของโควิด ภรรยาของผมที่มีความสนิทสนมกับแอดมินเพจต่างๆ ได้เริ่มโน้มน้าวให้มีการร่วมลงทุนในธุรกิจปล่อยเงินกู้ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ โดยที่ผมไม่มีส่วนรู้เห็นมาก่อน คนเดียวที่ผมรู้คืออินฟลูเอนเซอร์ท่านหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยนาม) และก็เข้าใจว่าเป็นเจ้าหนี้เพียงรายเดียวที่ทำข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งหลังจากวันที่เซ็นสัญญาผมก็ไม่ได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไป ผมได้แต่คิดไปเองว่ารายได้จากร้านอาหารที่ผมและภรรยาร่วมกันเป็นเจ้าของ (ปัจจุบันปิดไปแล้ว) รวมถึงรายได้อื่นๆ จะเพียงพอให้ชดใช้หนี้ได้ แต่ผมกลับคิดผิด
พูดไปคงไม่มีใครเชื่อว่าสามีภรรยาจะไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัว แต่ขอสาบานด้วยความสัตย์จริงว่าผมไม่เคยมีส่วนร่วมในการพูดคุยหรือโน้มน้าวให้เกิดการโอนเงินระหว่างใครก็ตามที่เป็นผู้เสียหายในเรื่องนี้ ผมไม่มีส่วนร่วมในเรื่องการเงินภายในครอบครัวเลยตั้งแต่หลังแต่งงาน ผมจะได้รับเงินก็ต่อเมื่อไว้ใช้สำหรับจับจ่ายในชีวิตประจำวันเท่านั้น เป็นที่รู้กันดีในหมู่แอดมินว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างเคารพการตัดสินใจของภรรยา หรือจะเรียกว่ากลัวเมียก็ไม่ผิดนัก แต่ผมก็ไม่เคยใส่ใจกับการล้อเลียนนั้น และเห็นเป็นเรื่องตลกเฮฮาในแวดวง
จนกระทั่งระหว่างที่ผมอยู่ต่างจังหวัด เริ่มมีกระแสจากเพื่อนแอดมินบางคนโทรศัพท์เข้ามาพูดคุยว่าภรรยาผมโน้มน้าวให้เกิดการโอนเงินระหว่างแอดมินเพจหลายๆ เพจมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาทและไม่มีการชดใช้คืน เรื่องที่ไม่น่าเชื่อคือผมเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้ ใครล่ะจะเชื่อ ขนาดผมเองยังไม่อยากเชื่อเลย อยู่ดีๆ กลายเป็นลูกหนี้มูลค่ามหาศาล จนกระทั่งเรื่องราวเริ่มบานปลาย ผมจึงขอตัดความสัมพันธ์กับภรรยาและดำเนินการหย่า เนื่องจากไม่สามารถให้ความไว้ใจได้อีกต่อไป เธอสารภาพภายหลังว่าได้นำเงินไปปล่อยกู้ และถูกลูกหนี้ฉ้อโกงเช่นกัน เงินทั้งหมดจึงสูญเปล่า
ควบคู่กับการสิ้นสุดฐานะเจ้าของเพจ ซึ่งนี่คือส่วนที่ผมสามารถรับผิดชอบได้ เนื่องจากผมไม่ได้ดูแลด้านการเงินจึงไม่มีเงินเก็บเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือยินยอมให้มีการตกลงซื้อขายเพจนี้ให้กับเจ้าหนี้รายหนึ่งเพื่อเป็นการชดใช้หนี้บางส่วน และทำคอนเทนต์ในเพจจนกว่าหนี้ทั้งหมดจะสิ้นสุด แต่ถูกลดสถานะแอดมินลง ไม่ใช่เจ้าของเพจอีกต่อไป แอดมินท่านอื่นสามารถลบผมออกจากเพจได้ทุกเมื่อ และหากปัญหาที่เกิดขึ้นสร้างความกระทบกับเพจ ผมยินดีจะออกจากการเป็นแอดมินอย่างไม่มีเงื่อนไข
ผมรู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์จะร้องขอความเห็นใจ ทุกคนสมน้ำหน้าผมได้ เพราะผมเองยังสมน้ำหน้าให้กับตัวเองเลย ในฐานะคนคนหนึ่ง ผมสูญเสียความไว้ใจ สูญเสียมิตรภาพ สูญเสียครอบครัว สูญเสียเพจที่สร้างมากับมือ ผมต้องขอโทษทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่ผ่านมาผมได้แต่จมอยู่กับความเครียดและความทุกข์ใจกับปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น ขอโทษที่ไม่อาจสู้หน้าทุกคนได้ ถ้ามีโอกาสผมจะขอชดใช้คืน แต่ตอนนี้ผมหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้วครับ"
นอกจากนี้ พบว่าเฟซบุ๊กที่ออกมาแฉเรื่องนี้ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "Ep.6 ตอนนี้เพจรีวิวหนังออกมายอมรับแล้ว แต่มีประเด็นการซื้อขายเพจกับเจ้าหนี้อีกกลุ่ม โดยการซื้อขายเกิดขึ้นหลังจากเรื่องเริ่มแดงแล้ว แต่เจ้าหนี้อีกหลายคนไม่รู้เรื่อง เพราะฝ่ายเมียโกหกว่าไม่มีการขายหรือเข้ามาทำสัญญาอะไร ต่อรอง ร้องไห้ว่าจะหาเงินมาให้"