เหตุสลดย่านหมู่บ้านดีเค พระราม 2 ชายวัย 50 ปี ใช้ปืนขู่ทะเลาะกันในครอบครัว ตำรวจท่าข้ามเข้าระงับเหตุ กลับถูกยิง 3 นัดสาหัสก่อนเสียชีวิต บิ๊กนพนำอรินทราช 26 เจรจาแต่ไม่เป็นผล ยิงสวนอีก 13 นัด ครอบครัวเผยเป็นไบโพลาร์ ขาดยา ไม่ได้รักษากว่า 1 ปี แถมคลุ้มคลั่งบ่อยครั้ง
วันนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา 21.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีชายอายุประมาณ 50 ปีมีอาคารคลุ้มคลั่งและมีอาวุธปืนอยู่ภายในอาคารพาณิชย์หลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านดีเค พระราม 2 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและรีบเข้าไประงับเหตุ นำโดย พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สน.ท่าข้าม เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน แต่ระหว่างเข้าไประงับเหตุ ได้ถูกชายคนดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ แต่ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์อาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ได้รับบาดเจ็บ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ผู้ก่อเหตุทราบชื่อเบื้องต้นคือนายตุ้ง (ไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริง) อายุ 50 ปี ตำรวจได้รับแจ้งว่าเป็นการทะเลาะวิวาทภายในครอบครัวโดยมีอาวุธปืน ซึ่งนายตุ้งได้ทะเลาะกับลูกภายในบ้าน พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์พยายามเข้าไปเจรจา แต่ถูกนายตุ้งใช้อาวุธปืนยิง 3 นัด กระสุนเข้าที่หน้าอกขวา 1 นัดหน้าอกซ้าย 1 นัด และง่ามนิ้วมือซ้าย 1 นัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 นายที่ติดตาม พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ถูกยิงบาดเจ็บอีก 1 ราย หลังจากนั้นได้กักขัง พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ พร้อมกับคนในครอบครัว ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะยอมให้คนในครอบครัวนำร่าง พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ออกจากบ้านแล้วนำส่งโรงพยาบาล แต่อาการสาหัส นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบุตรสาวของนายตุ้งได้รับบาดเจ็บจากการถูกบิดาใช้อาวุธปืนตบเข้าที่ใบหน้า และเปิดเผยว่าบิดามีอาวุธปืนภายในบ้านรวม 4 กระบอก สาเหตุที่คลั่งเพราะเป็นโรคไบโพลาร์ ขาดยา ไม่ได้รับการรักษามานานกว่า 1 ปี และที่ผ่านมามีอาการคลุ้มคลั่งบ่อยครั้ง
ต่อมา พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และกำลังตำรวจหน่วยอรินทราช 26 ได้ลงพื้นที่ปิดล้อมบ้านนายตุ้ง ปรากฏว่านายตุ้งใช้อาวุธปืนกราดยิงเป็นระยะ แม้ พล.ต.ต.นพศิลป์จะใช้เครื่องขยายเสียงเจรจาให้นายตุ้งออกมามอบตัว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมอบตัว จากนั้นเวลาประมาณ 01.18 น. นายตุ้งยิงปืนต่อเนื่องอีก 13 นัด
ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ดูแลควบคุมเหตุการณ์โดยด่วน และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ให้ใช้หลักยุทธวิธีในการเข้าระงับเหตุ คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน จากกรณีดังกล่าว ผบ.ตร.ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ พร้อมสั่งการผู้บังคับบัญชาให้ดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ให้แก่ครอบครัวของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ อย่างเต็มที่