หลวงพี่ชี้แจงแล้ว ปมดรามาอวดไลฟ์สไตล์สุดหรู อัปรูปซื้อกำไลคาร์เทียร์ 1.85 แสนบาท พร้อมร่ำไห้ขอโทษ หงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตัดต่อสลิป แคปฯ ภาพจากเน็ตของเพื่อนโพสต์โชว์
จากกรณีเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว3” ได้แชร์โพสต์ของพระสงฆ์รูปหนึ่ง โดยระบุว่า เป็นพระเลขาฯ วัดดังย่านใจกลางกรุง ที่โชว์ภาพลงโซเชียลการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เช่น นั่งรถหรูไปหาหมอ, ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อดังราคาแพง 2 เครื่อง, นั่งฉันชาบูในร้านอาหาร, นั่งฉันชาเขียวปั่นร้านกาแฟชื่อดัง และโชว์การทำธุรกรรมผ่านธนาคารเป็นยอดเงินหลักหมื่นบาท พร้อมระบุแคปชัน “เหงาจัง” และโพสต์ภาพใบเสร็จรูดบัตรซื้อกำไลเพชร ยี่ห้อหรู อย่าง Cartier ในมูลค่า 185,000 บาท
ขณะนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลถึงประเด็นดรามาในการใช้ชีวิตของพระรูปนี้ พร้อมกับคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย เช่น พังหมด ศาสนา, ทำเป็นอาชีพ พวกนี้ควรมีบทลงโทษได้แล้ว, อยากเปลี่ยนอาชีพเลย, พวกเราจนกว่าพระอีก, คนจำพวกนี้ทำให้วัดจะเป็นสถานที่ไม่น่าเข้าไปกราบไหว้อีกต่อไป
▪️คุณพsะสายชอปกับชีวิตสงฆ์สุดไฮโซ...โพสต์โดย อีซ้อขยี้ข่าว3 เมื่อ วันพุธที่ 19 มิถุนายน 2024
ล่าสุดวันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่วัดดังกล่าวย่านบางแค ทางด้านผู้ช่วยเจ้าอาวาสของวัดได้ทราบข่าวเมื่อเช้าและได้มีการเรียกพระรูปดังกล่าวมาว่ากล่าวตักเตือนและบันทึกถ้อยคำ ทำทัณฑ์บนไว้หากมีพฤติกรรมแบบนี้อีกครั้งก็จะให้สึกออกจากการเป็นภิกษุสงฆ์ ยืนยันว่าทางวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยพฤติกรรมดังกล่าวของพระรูปนี้เป็นการทำเล่นมักจะชอบอวดเหมือนกับเด็กจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด ต้องขอโทษชาวพุทธทุกคนด้วย
ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ พระสมพล อายุ 27 ปี บวช 8 พรรษา ตั้งแต่แม่เสียตอนอายุ 18-19 ปี โดยในขณะที่พูดไปก็ร้องไห้ไปเพราะว่ารู้สึกเสียใจมากและข่าวที่ออกไปนั้นบางส่วนก็ไม่จริงเพราะไม่เคยบอกกับใครว่าเป็นเลขาฯ ของวัดตามที่ ปรากฏเป็นข่าวออกไป และได้เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจและเสียใจมากที่เป็นข่าวออกไปแบบนั้น ส่วนกรณีที่นั่งฉันกาแฟร้านดังเพราะมีคนมาถวาย และมือถือยี่ห้อแพง 2 เครื่องนั้นเป็นของเพื่อนขอยืมมาถ่ายรูป ซึ่งจริงๆ แล้วใช้เพียงเครื่องเดียว ส่วนเรื่องของกำไล Cartier ยี่ห้อแพงนั้นเพียงแต่แคปฯ รูปภาพของเพื่อนมาลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งเรื่องทั้งหมดนั้นเพียงแต่โพสต์เล่นๆ เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี ส่วนสลิปการโอนเงินก็เอาสลิปของเพื่อนมาแต่งภาพเปลี่ยนชื่อ ทั้งนี้ อาตมาอยากขอโทษชาวพุทธทุกคนที่ทำให้เสียชื่อ หลังจากนี้จะไม่ทำอีก เป็นเพราะอาตมารู้เท่าไม่ถึงการณ์