ทำความรู้จัก "วัฒนธรรมของการเป็นเหยื่อ" ที่หล่อหลอมโดยนักวิชาการฝ่ายซ้ายใหม่ อยู่เบื้องหลังขบวนการสร้างเหยื่อ หลักการก็คือ คิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อของระบบ ชีวิตแย่เพราะระบบ แต่ไม่พยายามพัฒนาตนเอง เปรียบเด็กหกล้มแม่ตีพื้น สุดท้ายเป็นแค่เบี้ยในกระดาน
วันนี้ (16 พ.ค.) เฟซบุ๊ก "ต.ตุลยากร" ได้เผยแพร่บทความหัวข้อ "วัฒนธรรมของการเป็นเหยื่อ (Victimhood Culture)" ระบุว่า
"สังคมไทยปัจจุบันนี้กำลังถูกหล่อหลอมด้วยแนวคิดของนักวิชาการฝ่ายซ้ายใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ได้รับอิทธิพลทางความคิดจากสำนักแฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี: Frankfurter Schule)
แนวคิดหลักของสำนักนี้ ได้รับอิทธิพลและพัฒนาแนวคิดต่อยอดมาจากมาร์กซิสต์ เช่น วิพากษ์วิจารณ์ระบบทุนนิยม รวมถึงแนวคิดเรื่องการปลดปล่อยมนุษย์จากการกดขี่
ซึ่งผลข้างเคียงของการโหมประโคมเรื่องการกดขี่จากระบบ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “วัฒนธรรมของการเป็นเหยื่อ (Victimhood Culture)”
คนที่ถูกบ่มเพาะความคิดจากฝ่ายซ้ายมักจะเกิดอาการที่คิดว่าตนเองเป็นเหยื่อของระบบ ไม่พยายามที่จะพัฒนาตนเองเพื่อมีชีวิตที่ดีกว่า โทษแต่ว่าที่ชีวิตตัวเองยังย่ำแย่อยู่อย่างนี้ก็เพราะระบบ ดังนั้นวิธีแก้ มีอย่างเดียวเท่านั้น ก็คือ รื้อถอนทำลายระบบปัจจุบัน แล้วสร้างใหม่
ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ เด็กหัดเดินแล้วล้ม พ่อแม่โทษว่าที่ลูกล้มนั้นเพราะพื้นไม่ดี ต้องทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่
แต่ปัญหาคือ ใช่ว่าทุกคนที่คิดเช่นนั้น หลายคนที่เริ่มต้นจากจุดเดียวกัน ในระบบเดียวกัน กลับมีชีวิตที่ดี โดยไม่ต้องโทษคนอื่น
ดังนั้นหากขบวนการฝ่ายซ้ายต้องการให้คนเห็นด้วยว่าระบบที่มีอยู่นี้ไม่ดี ก็จำเป็นที่จะต้องแสดงให้เห็นถึง “เหยื่อ” ที่ถูกกดขี่จากระบบอย่างชัดเจน
เมื่อหา “เหยื่อ” ที่ชัดเจนมาแสดงไม่ได้ ก็เกิดขบวนการสร้าง “เหยื่อ” ขึ้นมา แล้วนำโหนเพื่อบอกชาวโลกว่าระบบที่มีอยู่นั้นย่ำแย่
“เหยื่อ” ที่ถูกสร้าง จึงเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งบนกระดานของพวกซ้ายใหม่เท่านั้นเอง
ขอประณามทุกผู้คนที่อยู่เบื้องหลังขบวนการสร้างเหยื่อเหล่านี้ครับ"