“สมชัย” กางกฎหมาย ยันเอาเงิน ธ.ก.ส.ไปสนับสนุนดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ ยกเว้นอยากนอนคุก

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊ก ยืนยันเอาเงิน ธ.ก.ส.ไปสนับสนุนดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ นอกจากคณะกรรมการ ธ.ก.ส.อยากไปนอนคุก แซวนายกฯ ลือเปลี่ยน รมต.คลัง หรือจะเปลี่ยนคนติดคุก

จากกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้แถลงข่าวโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้ง วงเงินงบประมาณ 500,000 ล้านบาท ในตอนหนึ่งได้เปิดเผยถึงแหล่งเงินในการจัดทำโครงการ ประกอบด้วย งบประมาณปี 2567 รวม 175,000 ล้านบาท งบประมาณปี 2568 รวม 152,700 ล้านบาท และให้ ธ.ก.ส.สำรองจ่ายไปก่อน ดูแลกลุ่มประชาชนที่เป็นเกษตรกร 17 ล้านคนเศษ รวม 172,300 ล้านบาท ทำให้กลายเป็นที่วิจารณ์แก่สังคม โดยเฉพาะลูกค้าเงินฝาก ธ.ก.ส.เกิดความวิตกกังวลว่าจะเจ๊งซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว

ล่าสุดวันนี้ (13 เม.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สมชัย ศรีสุทธิยากร” เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินจำนวนกว่า 1 แสนล้านบาทของรัฐบาล ที่จะนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า

“ใครมีเงินฝาก ธ.ก.ส.ไม่ต้องรีบถอนเงินนะครับ ดิจิทัลวอลเล็ต 172,300 ล้านจาก ธ.ก.ส.ยากมาก ยกเว้นคณะกรรมการอยากย้ายบ้าน

พ.ร.บ.ธกส. 2509 มาตรา 9 เขียนวัตถุประสงค์ไว้ชัดเจนว่า “(1) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร” ไม่ใช่ “ครอบครัวเกษตรกร“ แม้จะมีคำว่า ครอบครัวเกษตรกรใน (ค) และ (ง) แต่การให้ต้องให้ต่อเกษตรกรตาม (1)

2. ตัวเลขเกษตรกร 17.23 ล้านคน จึงเป็นตัวเลขยกเมฆ เอาครอบครัวเกษตรกรที่ไม่รู้ชัดเจนว่ามีอีกกี่คน ทำอาชีพอะไร ร่ำรวยแค่ไหนแล้วมารวมให้ถึง 17.23 ล้านคน ทั้งๆ ที่เกษตรกรที่จดทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ มีแค่ 8.9 ล้านคน

3. ยังไม่นับมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.ธกส. ที่ให้อำนาจกระทำกิจการต่างๆ ในฐานะธนาคาร รวม 17 อย่าง เช่น ให้กู้ รับฝาก ขายตั๋วเงิน ฯลฯ ที่อ่านสิบรอบก็ไม่เจอคำว่า “แจกเงิน” หรือ “ให้ รัฐบาลยืมเงินไปแจก“

4. ดังนั้น พิจารณาจากกฎหมาย อย่างไรก็เอาเงิน ธ.ก.ส.ไปสนับสนุนดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ครับ ยกเว้นคณะกรรมการ ธ.ก.ส.จะลงมติให้โดยเสี่ยงติดคุก

5. เอ่อ แต่ได้ข่าวจะมีการปรับ ครม. เปลี่ยนรัฐมนตรีคลังที่มีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการ ธ.ก.ส.ใหม่นี่ หรือรู้ตัวเลยจะเปลี่ยนคนติดคุก”