รองโฆษกรัฐบาล ซัด “จุรินทร์” 10 ปี วนเวียนอยู่ที่เดิม ไม่แปลกใจทำไมความนิยม ปชป.ตกต่ำ ย้ำ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตรัฐบาลพร้อมทำตาม กม. ติงอย่าเอาประโยชน์ของ ปชช.มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
วันนี้ (12 เม.ย. 67) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) มาทำเป็นนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนั้น เป็นดีเอ็นเอเดียวกันกับโครงการรับจำนำข้าวในอดีตนั้น ตนมองว่านายจุรินทร์ยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิม ๆ มากว่า 10 ปี เสมือนพายเรืออยู่ในอ่าง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมความนิยมของพรรคต้นสังกัดของนายจุรินทร์ถึงไม่พัฒนาไปไหนเลย อีกทั้งยังดูตกต่ำลงด้วยซ้ำ
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ในนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาไว้ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้ โดยปัจจุบัน ธ.ก.ส. มีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการดำเนินโครงการฯ และสามารถระดมเงินฝากเพิ่มเติมได้เมื่อมีความจำเป็น ทัังนี้ ธ.ก.ส. เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ เพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐ ดังนั้น หากรัฐบาลมีนโยบายที่จำเป็นต้องดำเนินการผ่าน ธ.ก.ส. และอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ธ.ก.ส. ก็สามารถดำเนินการได้
“การที่มีข้อกังวลว่าจะใช้เงินของเกษตรกรจาก ธ.ก.ส.มาใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้กล่าวย้ำแล้วว่า จะให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎหมาย รัฐบาลเข้าใจว่า หลายฝ่ายมีความกังวลเรื่องการกู้เงิน รัฐบาลก็พยายามหาทางลดความเสี่ยง และนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินโครงการที่จะต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด“
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ สามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้าง และเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของประเทศ
“นายจุรินทร์ ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน สามารถท้วงติงและเสนอแนะข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและการบริหารประเทศไทยได้ แต่ไม่ใช่เอาผลประโยชน์ของประชาชนมาเป็นเครื่องมือตีกินเพื่อหวังผลทางการเมือง ขอฝากให้นายจุรินทร์มองไปที่ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ มากกว่าการเปรียบเทียบหรือสร้างวาทกรรมใดๆ เพื่อด้อยค่าโครงการที่มีเป้าประสงค์หลักคือ ประชาชนมาเป็นอันดับแรก ” น.ส.เกณิกา กล่าว