"ศิริกัญญา" จี้รัฐบาลแจงให้ชัด ยืมเงินธกส. ทำดิจิทัลวอลเล็ต ใช้หนี้คืนเมื่อไหร่ ของเก่ายังค้างอยู่ 8 แสนล้าน ลั่นหากกฤษฎีกาปัดตก โครงการเป็นหมันแน่
เมื่อวันที่ (12 เม.ย.2567) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลจะยืมเงินจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เพื่อดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่อาจสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายว่า มีเรื่องน่ากังวล 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรก พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธกส. ระบุวัตถุประสงค์ของธกส. ไว้ชัดเจน ต้องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ
แม้ตอนแถลงข่าว ปลัดกระทรวงการคลังยืนยันว่า กระทรวงการคลังตรวจสอบแล้วและถูกต้องตามกฎหมาย และวันนี้นายกฯ ก็รับลูกในสิ่งที่ตนเสนอแนะไป ว่าควรส่งให้กฤษฎีกาตีความก่อน เพื่อความถูกต้องในการทำโครงการ เพราะหากเป็นคนทั่วไปตีความ ก็อาจทำให้โครงการไปต่อไม่ได้
เรื่องที่สอง ความพร้อมของธกส. ที่ต้องเตรียมเงินเพื่อรองรับโครงการ แม้รัฐบาลยืนยันสภาพคล่องว่ามีเพียงพอ แต่อาจจะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลข ว่าตัวเลขสภาพคล่องอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ แล้วธกส. จะมีความสามารถนำเงินในสภาพคล่องนั้นมาใช้ได้หรือไม่ ในเมื่อรัฐบาลหยิบยืมเงินธกส. ไป 8 แสนล้านบาทแล้ว หากรวมก้อนใหม่ที่จะใช้ทำโครงการต่อ ก็จะทะลุ 1 ล้านล้านบาท
ตนขอเรียกร้องแทน ธกส. เจ้าของเงินฝากและเจ้าของสลากธกส. ทั่วประเทศ ว่าขอให้รัฐบาลเปิดเผยแผนการชำระหนี้ว่าจะใช้หนี้ก้อนนี้อย่างไร จะใช้หมดภายในกี่ปี และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายมีจำนวนเท่าไหร่ อย่าใช้เงินของรัฐวิสาหกิจ โดยคิดประหนึ่งว่าเป็นเงินของรัฐบาลเอง เพราะมีหลายภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือได้รับผลกระทบจากการที่ใช้เงินของธกส. เป็นจำนวนมาก และไม่ชำระหนี้คืนให้ตรงต่อเวลา
เมื่อถามว่าประเมินคำตอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาไว้อย่างไรบ้าง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าทางกฤษฎีกาคงมีคำตอบที่ดีกว่านี้ เพราะวานนี้ (11 เม.ย.) เรายังไม่ได้รับคำตอบว่าจะตีความอย่างไร ซึ่งกฤษฎีกาอาจจะเห็นด้วยกับรัฐบาลว่าใช้ได้ อาจตีความให้เข้ากับวัตถุประสงค์ได้ อย่างน้อยจะช่วยเพิ่มความชัดเจนให้กับประชาชนว่าสรุปแล้วตีความทางกฎหมายแบบไหน ถึงจะใช้เงินได้
แต่อีกทาง หากกฤษฎีกาตีความว่าใช้ไม่ได้ รัฐบาลจะได้เตรียมแหล่งเงินใหม่ เพราะหากมีเงินไม่เพียงพอ 5 แสนล้านบาท รับรองว่าทำโครงการนี้ต่อไม่ได้แน่ๆ