ธนาคารไทยพาณิชย์แจงกรณีบนโซเชียลฯ แชร์ อ้างมิจฉาชีพส่งเพาเวอร์แบงก์ดูดเงินไม่เป็นความจริง ชี้ยังไม่เคยมีกรณีลูกค้าถูกดูดเงินจากเพาเวอร์แบงก์แต่อย่างใด หลังโลกออนไลน์ตื่นตระหนก
วันนี้ (6 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีการส่งต่อภาพและข้อความผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เป็นภาพของแบตเตอรี่สำรอง หรือเพาเวอร์แบงก์แบบไร้สายทรีอินวัน (3 in 1 Magnetic Wireless Charger) พร้อมข้อความระบุว่า "ได้รับซองเป็นเครื่องชาร์จแบตฯ อย่างดีจากธนาคาร SCB แต่ยังไม่ได้ชาร์จ พอดีสงสัยก็เลยไปถามญาติที่ทำงานแบงก์เขาบอกห้ามเสียบห้ามทำอะไรเด็ดขาดเลยนะมันเป็น call center ซึ่งส่งมาให้ถ้าเราเสียบชาร์จปั๊บหรือ power bank ที่มันส่งมาให้มันจะดูดเงินทันที โชคดีที่มีญาติอยู่แบงก์และเขาบอกโทร.ไปเช็กกับแบงก์ SCB เขาบอกไม่มีการส่งอะไรไปให้ลูกค้าของแบงก์เลย ฝากไว้ด้วยนะจ๊ะใกล้ตัวเข้ามาทุกที" ทำเอาผู้คนแตกตื่นและคัดลอกข้อความนำไปโพสต์บนโซเชียลฯ จำนวนมาก
สำหรับพัสดุดังกล่าว จากการตรวจสอบหมายเลขสิ่งของ 13 หลัก ผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด พบว่าส่งจากบริการ Pick Up Service ของไปรษณีย์บดินทร์เดชา เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ถึงผู้รับปลายทาง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีชื่อของนายปองภพ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้รับ
ถึงกระนั้น ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า "ตามที่มีข้อความเผยแพร่ในโลกออนไลน์ว่าเพาเวอร์แบงก์จาก SCB สามารถดูดเงินไปเข้าบัญชีมิจฉาชีพได้นั้น ธนาคารขอชี้แจงว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง และยังไม่เคยมีกรณีลูกค้าถูกดูดเงินจากการใช้เพาเวอร์แบงก์ตามข้อความดังกล่าวแต่อย่างใด จึงขอเรียนชี้แจงเพื่อให้ลูกค้าและสาธารณชนได้ทราบ เพื่อจะได้ไม่ตื่นตระหนกกับข้อความดังกล่าว"
อนึ่ง ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รายงานว่า แบตเตอรี่สำรองแบบไร้สายดังกล่าวเป็นของพรีเมียมที่ธนาคารได้มอบแก่ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของธนาคาร ตามเงื่อนไขในช่วงของการจัดโปรโมชัน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง ไม่ใช่อุปกรณ์ขโมยข้อมูลหรือดูดเงินแต่อย่างใด