จากเหตุไวรัลภาพ คำตอบการบ้านนักเรียนที่แทบอ่านไม่ออกว่าเขียนอะไร จนครูออกมาตัดพ้อหนุนให้โรงเรียนประกาศนโยบายเรียนซ้ำชั้น ล่าสุดอ.เจษฎ์วอนครูเจอเด็กเขียนหนังสือไม่ได้อย่าเพิ่งท้อใจ ชี้เด็กอาจจะเป็นโรค LD
จากกรณีครูโพสต์ภาพคำตอบ, การบ้านของนักเรียนที่เขียนส่งๆ อ่านแทบไม่ได้ ไม่เป็นภาษา พ้อแบบนี้มันเกินจะรับไหว เผยหนุนให้โรงเรียนประกาศนโยบายเรียนซ้ำชั้น วอนอย่าปล่อยให้เด็กพูดต่อหน้าครูว่า “ไม่ทำ ไม่ส่ง เพราะยังไงก็ผ่านอยู่แล้ว“ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (4 มี.ค.) เพจ “อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์“ หรือ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "ถ้าคุณครูเจอเด็กเขียนหนังสือไม่ได้ ใจเย็นๆ ครับ เด็กอาจจะเป็นโรค LD ช่วงนี้มีการแชร์ภาพลายมือของนักเรียนที่เขียนการบ้านส่งคุณครู ซึ่งลายมือเขียนไม่สวยเอามากๆ ระดับที่อ่านแทบไม่ออกเลย และสร้างความลำบากใจ ท้อใจให้คุณครูที่สอนเป็นอย่างมาก เป็นปัญหาให้น่ากังวลกันถึงเรื่องคุณภาพการศึกษาของเด็กไทย และมีการยกประเด็นเรื่อง "การไม่ให้ตกซ้ำชั้น" มาถกเถียงกันด้วย ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เวลาที่คุณครู หรือคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง รวมไปถึงเพื่อนๆ นักเรียนร่วมชั้น เจอเด็กคนไหนที่เขียนหนังสือหรืออ่านหนังสือไม่ได้ เช่น เขียนผิดๆ ถูกๆ ลายมือแย่ อ่านหนังสือตะกุกตะกัก หรืออ่านข้ามคำข้ามประโยคยากๆ ไป ทั้งที่พูดคุยกันก็รู้เรื่อง เข้าใจได้ทุกอย่าง ตอบโต้ได้ดี .. เด็กคนนั้นอาจจะกำลังป่วยเป็นโรค LD หรือ learning disorder (โรคการเรียนรู้บกพร่อง) ก็ได้ครับ
ตัวอย่างในรูปประกอบด้านล่างนี้มาจากข่าวเมื่อปี 2559 ที่คนแชร์รูปลายมือเด็กไปวิพากษ์วิจารณ์กัน และสุดท้ายพบว่าจริงๆ แล้วเด็กเป็นโรค LD (ดูข่าวด้านล่าง)
เมื่อก่อนโน้นผมก็ไม่เคยรู้จักโรค LD นี้เหมือนกัน แต่จนเมื่อผมได้เคยเป็นพิธีกรรายการ "สามัญชนคนไทย" ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเมื่อหลายปีก่อน เลยทำให้ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ครอบครัวและคุณครูของเด็กๆ ที่ประสบกับปัญหานี้อยู่ ก็ได้เรียนรู้ครับว่าโรคนี้มีอยู่จริง (และมีคนเป็นเยอะด้วย) แต่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ เพียงแต่ต้องใช้ความอดทนสูงมากจากทุกฝ่าย
โรค LD (Learning Disabilities) คือความบกพร่องในการเรียนรู้ ในเด็กที่มีสติปัญญาฉลาดในเกณฑ์ปกติหรือฉลาดเหนือกว่าเด็กอื่น แต่การเรียนรู้ในด้านใดด้านหนึ่ง หรือหลายๆ ด้าน ช้ากว่าเพื่อนที่มีอายุเท่ากัน ทั้งๆ ที่เพื่อนอาจมีสติปัญญาเท่ากันหรือต่ำกว่า
ความบกพร่องในการเรียนรู้มิได้เกิดจากความเกียจคร้าน, การขาดเรียน, มีความพิการ หรือปัญหาทางอารมณ์ ซึ่งโรคนี้พบในเด็กวัยเรียนได้ถึง 7%
อาการที่แสดงถึงการเป็นโรค LD อาจมีข้อใดข้อหนึ่ง หรือหลายข้อร่วมกัน ดังนี้
- ปัญหาในการอ่าน เช่น อ่านผิด ตกหล่น อ่านข้ามคำ เพิ่มคำ สลับพยัญชนะ ผสมคำ แยกคำอ่านไม่ได้ อ่านไม่ได้ใจความจนถึงขั้นอ่านไม่ออกเลย
- ปัญหาในการเขียน เช่น เขียนตัวหนังสือกลับหลัง เขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ไม่ถูกที่ หรือเขียนคำสลับตำแหน่งกัน ทำให้เขียนช้าและไม่ชอบเขียน
- ปัญหาในการคำนวณ เช่น เขียนตัวเลขผิด ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขหลักต่างๆ ไม่เข้าใจเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ ตีโจทย์ปัญหาไม่ได้ ไม่เข้าใจวิธีการคำนวณตัวเลข
- ปัญหาในการคิด เช่น ไม่สามารถลำดับเหตุการณ์ สับสนในการทำตามคำสั่ง การให้เหตุผลไม่ดีพอ เรียนแล้วก็ลืม
เด็กที่เป็น LD อาจจะส่งผลทำให้คิดว่าตนเองเรียนไม่เก่ง มีปมด้อย มีอารมณ์เศร้า บางครั้งเมื่อถูกบังคับให้ทำงานซ้ำๆ หรือเรียนพิเศษ ก็จะต่อต้านการเรียน ไม่อยากไปโรงเรียน เด็กมักพูดจาฉลาดโต้ตอบได้ดี แต่พอให้อ่าน เขียน คำนวณ กลับทำได้ไม่ดี ทำให้ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ ดุว่าเป็นเด็กขี้เกียจ ดื้อ เกเร
ถ้าพบเด็กที่อาจจะเป็นโรค LD สามารถพาไปพบคุณหมอ ให้ซักประวัติอย่างละเอียดจากผู้ปกครอง มีแบบสอบถามให้คุณครูตอบ มีการวัดระดับเชาวน์ปัญญา วัดความสามารถทางการเรียนด้านต่างๆ ตรวจร่างกายและทดสอบทางจิตวิทยา และผลสัมฤทธิ์ในการเรียน ให้ความรู้ความเข้าใจ ช่วยเหลือเด็กและครอบครัวทางด้านจิตใจ ช่วยทางด้านการเรียนโดยครูการศึกษาพิเศษ
ถ้าเด็กมีภาวะอื่นร่วมด้วย เช่น สมาธิสั้น ซึมเศร้า คงต้องให้กินยา การบำบัดทางเลือกอื่นๆ เช่น ศิลปะบำบัด การกระตุ้นระบบประสาทและความรู้สึก
ในด้านการศึกษา เด็กที่เป็นโรค LD ควรจะต้องได้รับความช่วยเหลือ ได้รับการวางแผนการเรียนเป็นรายบุคคล (Individualized Educational Program, IEP) เพื่อปรับหลักสูตรการเรียนและวิธีการประเมินให้เหมาะสม เช่น เน้นการฟัง การเห็น การลงมือทำ หรือใช้เครื่องมือช่วยในการเรียนรู้ เช่น วิดีโอ คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถเรียนได้ในโรงเรียนปกติ
ภาพและข้อมูลจาก เพจโรงพยาบาลมนารมย์ https://www.manarom.com/blog/ld.html
ปล. ดูคลิปวิดีโออันนี้ ก็อธิบายได้เข้าใจง่ายดีครับ https://www.youtube.com/watch?v=-gUyCGAveXc รายการพบหมอรามา | Rama Update สุดยอดลายมือเด็ก แท้จริงแล้วป่วยโรค LD | 10 มิ.ย. 59
----------
(รายงานข่าว) ครูทอม ติงปมครูเขียนขอลาตาย-เพจดังเผยเจ้าของลายมือป่วยโรค LD
จากกรณีที่บนโลกโซเชียลได้มีการแชร์ภาพการบ้านวิชาภาษาไทยของเด็กนักเรียนคนหนึ่งซึ่งมีลายมือที่แปลกไม่เหมือนใคร แถมยังอ่านแทบไม่ออก ทำให้คุณครูเจ้าของวิชาถึงกับเขียนข้อความแซวสั้นๆ ว่า "ครูขอตายดีกว่า" จนคนที่เห็นภาพต่างเข้ามาคอมเมนต์แซว และพยายามช่วยกันแกะข้อความกันยกใหญ่ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 7 มิถุนายน 2559 ครูทอม จักรกฤต โยมพยอม ติวเตอร์ชื่อดัง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Jakkriz Yompayorm ว่า ไม่ตลกเลยกับการที่ครูคอมเมนต์การบ้านเด็กลายมือไม่สวยว่า "ครูขอตายดีกว่า" แถมครูยังเอามาประจานในโลกออนไลน์อีก นี่มัน cyberbullying ชัดๆ บางคนอาจจะคิดว่าแค่ขำๆ แต่เหตุการณ์นี้อาจจะส่งผลให้เด็กเกลียดการทำการบ้าน เกลียดการเขียนหนังสือ หรืออาจจะส่งผลให้เด็กเกลียดการเรียนหนังสือก็ได้ ยอมรับว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมอาจจะรู้สึกขำกับเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่พอมีโอกาสได้เจอเด็กนักเรียนมากขึ้น ก็ตระหนักมากขึ้นเรื่องความรู้สึกของเด็ก เรื่องปมต่างๆ ในชีวิตเด็กแต่ละคน ผมเลยรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ไม่ตลกเลยสักนิด
และในวันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก คําไทย ก็ได้โพสต์อัปเดตเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ระบุว่า คุณครูได้ตรวจการบ้านวิชาภาษาไทยของเด็กคนนี้แล้ว พร้อมเขียนอธิบายจุดที่ต้องแก้ไข รวมถึงชื่นชมเด็กที่มีความวิริยะ อุตสาหะ
นอกจากนี้ยังได้มีการพูดถึงประเด็นที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pook Sukonta Berthebaud วิเคราะห์ว่าเด็กนักเรียนคนนี้อาจมีอาการบกพร่องทางการเรียนรู้ ลักษณะเหมือนเด็กที่เป็น LD คือ พูดจารู้เรื่อง แต่ไม่สามารถตีเป็นสัญลักษณ์ (อักษร) แบบที่พวกเราเข้าใจได้
โดยข้อความในเฟซบุ๊ก Pook Sukonta Berthebaud ระบุว่า ด้วยความสนใจกับประเด็นนี้ จึงพยายามติดตามเรื่องราวแบบเจาะลึก จนรู้ว่าเด็กนักเรียนคนนี้ป่วยเป็นโรคบกพร่องทางการเรียนรู้ (Learning Disabilities) จริงๆ ซึ่งตอนนี้ก็ได้ขอให้คุณหมอเอ Chakkrit Akaraseranee ช่วยเขียนอธิบายถึงโรคดังกล่าวให้ เพื่อนำข้อมูลมาเผยแพร่ให้สังคมได้รับรู้ว่ามีผู้ป่วยโรคนี้อยู่จริง และหากบุตรหลานใครที่มีปัญหาคล้ายๆ กันก็จะได้รู้วิธีรับมือ รวมถึงการรักษา