นักธุรกิจหนุ่มด่าการบินไทยห่วยแตก กล่าวหาน้ำมันไม่พอ กัปตันสุดทนฟาดกลับแทบจุก

นักธุรกิจรายหนึ่งโพสต์ด่าการบินไทย เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเมลเบิร์นแต่ต้องลงจอดซิดนีย์ กล่าวหาใส่น้ำมันมาไม่พอ กัปตันไม่มีความหนักแน่น หน่อมแน้ม ไม่ยอมรับความจริง เจอกัปตันตัวจริงโต้กลับ ทัศนวิสัยแย่ หมอกหนา จะให้ฝืนบินอีกเหรอ กรุณาให้เกียรตินักบินด้วย สุดท้ายซ่อนโพสต์ต้นตอ ขอโทษก่อนปิดเฟซบุ๊กหนีทัวร์ลง

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. บนโซเชียลฯ วิจารณ์กรณีที่นายเอก (นามสมมติ) นักธุรกิจหนุ่มวัยประมาณ 40 ปี โดยสารไปกับเที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG465 เส้นทางกรุงเทพฯ-เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2567 ปรากฏว่าโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวตำหนิว่าการบินไทยห่วยแตก ตั้งแต่การบริการ เครื่องบิน กัปตันและนักบิน กล่าวหาว่ากัปตันโกหกว่าทัศนวิสัยไม่ดี เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ (ATC) ให้วน 20 นาที น้ำมันไม่พอต้องลงจอดที่สนามบินซิดนีย์ ทั้งที่ตนขึ้นลงสนามบินเมลเบิร์นมาไม่ต่ำกว่าพันรอบ

นายเอกยังอ้างว่า สรุปง่ายๆ คือ ใส่น้ำมันมาไม่พอ ไม่ได้เผื่ออะไรเลย กัปตันไม่มีความหนักแน่น พูดภาษาอังกฤษไม่มั่นใจ สู้ความกระฉับกระเฉงของกัปตันชาวออสเตรเลียเที่ยวบินอื่นที่แย่งกันขอลงไม่ได้ ทั้งที่น้ำมันลดลงแล้ว กล่าวหาว่ากัปตันหน่อมแน้ม และยังกล่าวหาว่ากัปตันไม่กล้าแอ่นอกรับผิดหรือพูดความจริง อ้างว่าตนบอกให้กัปตันออกมารับสารภาพแล้วก็ยังไม่กล้า ไม่พูดอะไรสักคำ ผู้โดยสารก็โกรธ ปล่อยให้พนักงานต้อนรับกลายเป็นแพะโดนด่าแทนกัปตัน ก่อนจะแคปฯ หน้าจอไอโฟนระบุว่าสภาพอากาศแจ่มใส อุณหภูมิ 21 องศาเซลเซียส และอ้างเว็บไซต์พยากรณ์อากาศว่าทัศนวิสัย 10 กิโลเมตร

ปรากฏว่าเฟซบุ๊กเพจ "กัปตันไฟซอล บิน กิน เที่ยว Captain Faisal" ซึ่งเป็นนักบินของการบินไทย โพสต์ข้อความระบุว่า "แม้ว่าท่านจะแสดงถึงความไม่รู้ ใช้คำดูถูกด้อยค่ากัปตันและนักบินที่เพิ่งพาท่านรอดมาได้ แต่ผมขออธิบายเป็นวิทยาทาน เผื่อท่านอาจจะได้เข้าใจอะไรมากขึ้น ช่วงที่ท่านไปถึงเมลเบิร์น อากาศจริงๆ คือ Low visibility จัดมาทัศนวิสัย 200 เมตรและหมอกหนา Fog เอาว่าขนาดขับรถยังแทบไม่เห็นทาง และจากเมนต์ด้านล่าง ช่วงเวลาเดียวกัน มีเครื่องบิน Divert กันบานเลย ข่าวอากาศการบินมันเป็นข่าวเฉพาะ ไม่ได้มีแถมมาในมือถือ ท่านลองไปดูในแอปฯ Airport มันบอกท่านชัดเจนว่าอากาศเมืองที่ท่านอยากรู้มันเป็นไง อัปเดตทุก 30 นาที อะตอบคำถามที่ถูกสรุปจากความไม่รู้ของท่าน

1. ใส่น้ำมันมาไม่พอ ไม่เผื่ออะไรเลย ตอบ การเติมน้ำมันเครื่องบิน เติมตามกฎหมายที่กำหนดครับ ต่ำกว่านี้ไม่ได้ โดยทั้งหมดมันเผื่อมาให้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ถ้าไม่พอ สุดวิสัย ก็ต้องไปลงสนามบินสำรอง เป็นหลักสากลที่คนเดินทางเขาเข้าใจ การไดเวิร์ดโดยเฉพาะจากสภาพอากาศเป็นของคู่กับการบิน

2. กัปตันไม่มีความหนักแน่น หรือ Pushy พอกับ ATC อาจเป็นเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่มั่นใจ สู้ความ Hustle ของกัปตัน Aussie เที่ยวบินอื่นที่แย่งกันขอลงไม่ได้ ทั้งที่ low fuel แล้ว ความหน่อมแน้มที่ไม่ควรมีในผู้ชายสักคน ตอบ เรื่องภาษาอังกฤษ นักบินตัองมีการสอบ aviation english ทุกคนและ “ต้องผ่าน” ถ้าไม่ผ่านก็บินไม่ได้ และสอบกับสถาบันกลาง ไม่ได้งุบงิบสอบกันเอง

เรื่องการลงสนามก็ตามคิวครับ ถ้าเจออากาศปิดแบบนี้มาถึงก่อน วนรอก่อน อากาศดีขึ้นก็ลงก่อน มาถึงช้าบินวนรอเพื่อลงตามคิว รอได้รอ รอไม่ได้ไปลงสนามบินสำรอง จะมาขอแซงคิวไม่ได้ ไม่มีต่อรองครับ ยกเว้น วนจนน้ำมันเหลือต่ำที่เราเรียกว่า Mayday Fuel อันนั้นคืออันตรายสุด คือต่ำกว่าน้ำมันสำรองก้นถัง อันนี้ขอลงก่อนได้ แต่โดนสอบสวนไส้แตกแน่ว่าทำไมเอาตัวไปเสี่ยงแบบนั้น

ถ้านักบินกล้าหาญอย่างที่ท่านว่า เอ๊า วนไป แล้วไปต่อรองเอา ต่อไปเรื่อย ๆ ถ้า Low fuel จริงๆ ผลลัพธ์ที่ได้คงไม่ทำให้ท่านปากแจ๋วได้แบบนี้ครับ

นักบินหน่อมแน้ม ที่ท่านดูแคลนพวกนี้แหละครับที่พาท่านรอด ส่วนพวก Macho หรือ มานะชาย เหมือนที่ท่านว่า ส่วนใหญ่ตายห่าก่อนเกษียณครับ ตอนนี้เขาถอดเคสพวกมานะชายเหมือนที่ท่านว่ามาให้นักบินทั่วโลกเขาเรียนชื่อวิชา CRM หรือ Crew Resource Management เพราะ Macho เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอันตราย

สุดท้ายก่อนจบ นักบินการบินไทยมาตรฐานระดับโลก ไปสอบที่ไหนเขาก็รับ อยู่เมืองนอกกันก็เยอะแยะครับ นักบินเราบินกันด้วยมาตรฐานที่สูงสุด เพราะเราก็กลัวตาย นักบินมีลูก เมีย พ่อ แม่ คนรักที่รอเรากลับบ้านอยู่เช่นกัน กรุณาให้เกียรตินักบินคนที่ดูแลชีวิตท่านด้วย"

ขณะที่นักบินหลายคนต่างแชร์ข้อมูลการบิน พบว่าช่วงเวลาดังกล่าวสายการบินอื่นที่ลงปลายทางสนามบินเมลเบิร์นก็ลงสนามบินอื่น (Divert) ทั้งหมด และจากรายงานข่าวอากาศทางการบิน พบว่าขณะนั้นที่สนามบินเมลเบิร์น เวลา 20.30 น. ตามเวลา UTC ทัศนวิสัย 200 เมตร มีเมฆปกคลุมทั้งหมด ส่วนชาวเน็ตสังเกตเห็นนายเอกตั้งค่าโพสต์ต้นตอเฉพาะเพื่อน (Friends Only) ไม่ให้สาธารณชนเห็น

ภายหลังนายเอกโพสต์ข้อความขอโทษการบินไทย ระบุว่า "หลังจากโพสต์ของผมซึ่งเป็นความรู้สึกส่วนบุคคลและมีอารมณ์อยู่นั้น และตั้งใจสื่อว่าการสื่อสารกับผู้โดยสารไม่พอสำหรับผมในเหตุการณ์นั้น ถึงกระนั้นข้อความที่ปรากฏไม่เหมาะสม และผมขอประทานโทษมา ณ ที่นี้ กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบครับ" และล่าสุดได้ปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวหนีไปแล้ว ส่วนอินสตาแกรมตั้งค่าเป็นส่วนตัว

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ข้อมูลจากเว็บไซต์ flightaware.com พบว่า เที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG465 เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 19.07 น. ตามเวลาประเทศไทย ทำการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส A350-900 แต่ได้ลงจอดที่สนามบินซิดนีย์เมื่อเวลา 08.51 น. วันที่ 29 ม.ค. 2567 ตามเวลาท้องถิ่น ใช้เวลาทำการบิน 9 ชั่วโมง 44 นาที ก่อนที่จะออกจากสนามบินซิดนีย์เมื่อเวลา 10.29 น. ตามเวลาท้องถิ่น ถึงสนามบินเมลเบิร์นเวลา 11.41 น. ตามเวลาท้องถิ่น ใช้เวลาทำการบิน 1 ชั่วโมง 12 นาที ล่าช้ากว่าปกติที่จะต้องถึงสนามบินเมลเบิร์นเวลา 07.20 น.