xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์สมองวิเคราะห์ 6 ข้อ "แก๊งฆ่าป้ากบ" ยันแค่แก้กฎหมายแรงขึ้นยังไม่ถือว่าจบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและความผิดปกติทางประสาทวิทยา วิเคราะห์สมองแก๊งฆ่าป้ากบ ยืนยันแค่แก้กฎหมายให้แรงขึ้นแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง ต้องแก้หลายขยัก ไม่ให้มี "ป้ากบ" รายใหม่

วันนี้ (18 ม.ค.) ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและความผิดปกติทางประสาทวิทยา ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว "สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์" ในประเด็น "เบื้องลึกจิตวิทยา แก๊งฆ่าป้ากบ" ชี้การแก้ปัญหามีความซับซ้อน ต้องช่วยกันเพื่อไม่ให้มี "ป้ากบ" รายใหม่ โดย อจ.หมอสุรัตน์ได้ระบุข้อความว่า

"เบื้องลึกจิตวิทยา แก๊งฆ่าป้ากบ

การที่เด็กเป็นแก๊งไล่ทำร้ายคน ได้ทำสิ่งเลวร้ายเกินเด็ก เราเห็นเต็มไปหมดในปัจจุบัน แล้วส่วนใหญ่เป็นแก๊งด้วย พวกนี้ตัวเดียวทำไม่ได้หรอก มันมีจิตวิทยาฝังแฝงอยู่ในนั้น

มาดูกัน ทฤษฎีอธิบายพวกแกเด็กเลว จิตวิทยาเบื้องหลังความรุนแรงในเหตุการณ์ดังกล่าว สถานการณ์ที่เล่ามานี้ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยทางจิตวิทยาหลายประการที่ส่งผลต่อพฤติกรรมรุนแรง ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ซับซ้อน :

1. พลวัตกลุ่ม (Group Dynamics): เยาวชนอาจรู้สึกตื่นเต้นและมีส่วนร่วมมากขึ้นเมื่ออยู่ในกลุ่ม พลวัตกลุ่มสามารถขยายพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ทำให้เกิดการกระทำที่อาจไม่กล้าทำคนเดียว เรียกว่า พวกมากลากไป เออ เอ็งเอา ข้าเอาด้วย

2. การสูญเสียตัวตน (Deindividuation): ความไม่ชัดเจนของตัวตนภายในกลุ่มอาจลดความตระหนักรู้ในตัวเองและความรับผิดชอบต่อการกระทำ ทำให้เกิดพฤติกรรมที่รุนแรงกว่าการกระทำตามลำพัง พวกนี้จะเป็นพฤติกรรมเด็กที่ได้รับการสั่งสอนไม่ดี ไม่มีจุดมุ่งที่ชัดเจน ทำให้เส้นทางการเดินไม่ชัด ตัวตนไม่มี เลยผูกตัวตันไว้กับกลุ่ม คือกลุ่ม แก๊งนี่แหละคือตัวตน

3. ความตื่นเต้นและอิทธิพลเพื่อน (Excitement and Peer Influence): ความตื่นเต้นได้กระทำเป็นตัวเร่ง คือต้องเข้าใจว่า เมื่อตื่นเต้น สมองหลั่งสาร dopamine epinephrine ทำให้มีความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ทำ มันเป็นสัญชาตญาณการล่าสัตว์ การเอาชนะ ที่ฝังตัว โดยเฉพาะเด็กที่ยังไม่มีตรรกะ โตเต็มวัย

4. บรรทัดทางสังคมและการเป็นแบบอย่าง (Societal Norms and Role Modeling): การยอมรับความรุนแรงเป็นวิธีแสดงความตื่นเต้นหรือแก้ไขความขัดแย้ง อาจได้รับอิทธิพลจากบรรทัดทางสังคมหรือบุคคลต้นแบบ ส่งผลให้เกิดรูปแบบพฤติกรรมที่รุนแรง เช่น การเห็นแก๊งนั้นก็ทำได้ และได้รับการยอมรับในสังคมเดียวกัน ยิ่งเดี๋ยวนี้มี social media ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

5. ทักษะการแก้ไขความขัดแย้งที่ไม่เพียงพอ (Lack of Conflict Resolution Skills): พวกนี้สมองด้อยพัฒนา แก้ปัญหาแบบไม่มีความคิด ไม่มีตรรกะ แสดงให้เห็นการสอนของผู้ปกครองไม่ให้คิด ไม่มีเหตุผลที่ควร ดังนั้น การจัดการปัญหา จะเป็นการจัดการแบบป่าเถื่อน ไม่มีการคิดถึง norm หรือสถานะสังคมที่ควรเป็น หรือ กฎหมาย

6. พันธุกรรม ยีนนักฆ่า (Murderer gene) พวกนี้เกิดเป็นนักฆ่าโดยสันดาน ทำร้ายแล้วรู้สึกสุข พบว่ายีนที่คุม MAO เป็นยีนที่เกี่ยวข้อง พวก serial killer ฆาตกรต่อเนื่อง หรือพวกเข้าคุกแล้วทำซ้ำครั้งที่สอง มันคือสันดาน ควรจัดการตัดตอน เข้าคุกยาว ไม่ให้ออกมา เพราะกฎหมาย ดัดสันดาน ทำไม่ได้ เพราะมันมียีนกำหนด

การแก้ปัญหา เป็นการแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อน เหมือนปมเชือกที่รัดแน่น แก้ปัญหาอย่างเดียวไม่ได้ การบัญญัติกฎหมายที่แรงขึ้นเป็นการกดทับ ก็ช่วยให้กดความป่าเถื่อนได้ระดับหนึ่ง แต่มันเป็นปัญหาหลายขยัก ต้องบูรณาการเพื่อป้องกันต่อไป จะได้ไม่มี ป้ากบรายที่ 2, 3, 4 นะฮะ"
กำลังโหลดความคิดเห็น