xs
xsm
sm
md
lg

เพจดังพูดให้คิด! จะดูดวงอย่างไร หากเราไม่ได้อยู่ในระบบสุริยจักรวาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพจดังตั้งคำถาม หากอนาคตมนุษย์ต้องเดินทางย้ายถิ่นฐานไปอาศัยในระบบสุริยะอื่น หรือเราไม่ได้อยู่ในระบบสุริยจักรวาลจะดูดวงอย่างไร หากมีการค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่หรือตัดดาวอังคารออกจากการเป็นเคราะห์ในระบบสุริยะ ตำราโหราศาสตร์นพเคราะห์จะมีปัญหาหรือไม่

จากกรณีเกิดการถกเถียงกันของ “โหรฟันธง ลักษณ์ เรขานิเทศ” กับ “แพรรี่” ไพรวัลย์ วรรณบุตร เกี่ยวกับเรื่องของปีชงจนกลายเป็นวาระแห่งชาติที่มีชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่ง “แพรรี่” ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดว่าปีชงมีไว้สำหรับหลอกคนโง่ เพราะมันขายของได้ ปีชงตามมาด้วยทำพิธีกรรม ทุกอย่างแก้ได้ด้วยการเสียเงิน ที่บอกว่ามีเคราะห์ ปีนี้ปีชง เดี๋ยวจะให้วิธีแก้ชง แต่วิธีแก้ชงก็คือการเสียเงินแน่นอน

ด้าน อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ ก็ออกมาสวนกลับ ตอนนี้มีโมฆบุรุษลักเพศ หิวแสง ออกมาบริภาษ สร้างเรื่อง สร้างคอนเทนต์ แบบไม่มีสติ ใช้ปัญญาอันต่ำทรามพูดถึง กล่าวถึง ส่อเสียด แบบเพ้อเจ้อ เหยียบย่ำ ให้ร้าย (ว่าปีชงมีไว้หลอกคนโง่) ในสิ่งที่ตนไม่มีความรู้ ประสบการณ์ ด้วยลักษณะอาการมันปาก สนุกปาก ในประเด็น “ปีชง” อันเป็นศาสตร์วิชาโหราศาสตร์จีน โปยหยี่สี่เถียว ฯลฯ อันมีปราชญ์ ผู้รู้ บรมครู สืบวิชามายาวนาน ทั้งพระในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน จีนนิกายมากมาย ท่านเอาศาสตร์นี้ไว้เป็นแนวทางเตือนสติ ให้ขวัญกำลังใจ ให้มีวิถีบูชาพระ เข้าวัด ปฏิบัติบูชา พระไภษัชยคุรุ ตามแนวทาง ให้ ปฏิบัติบูชาระลึกเทพเทวา และบรรพบุรุษ ด้วยหลักกตัญญูกตเวทิตา เป็นความเชื่อถือศรัทธาของผู้มีศรัทธามากมาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 ม.ค. เพจ "Spaceth.co" ซึ่งเป็นเพจที่ให้ความรู้ด้านอวกาศ และดาราศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้ให้เห็นในอีกมุมมองหนึ่ง ว่า เราจะดูดวงอย่างไร หากไม่ได้อยู่ในระบบสุริยจักรวาล และมองจากมุมมองของโลก? โดยมีใจความว่า

"ก่อนอื่น ต้องออกตัวก่อนว่านี่ไม่ใช่บทความกวนตีนแต่อย่างใด แต่ต้องการที่จะช่วยสร้างตำราโหราศาสตร์รุ่นใหม่ที่สามารถใช้งานได้ในอนาคตหากมนุษย์ต้องเดินทางย้ายถิ่นฐานไปอาศัยในระบบสุริยะอื่น เมื่อพูดถึงการดูดวง หรือโหราศาสตร์ เรามักจะสังเกตเห็นการพูดถึงดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ เช่น พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี ซึ่งเราอาจคุ้นเคยกันดี เราเรียกว่าดาวนพเคราะห์ และดาวอีกกลุ่มที่มักจะพูดถึงกันก็คือกลุ่มดาวจักรราศี เช่น ราศีสิงห์ (Leo) ราศีธนู (Sagittarius) ไล่ไปจนครบ

ซึ่งพอตำราโหราศาสตร์เป็นแบบนี้ เราจะเห็นว่านี่เป็นวิธีการมองโดยอาศัยมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเราจะเห็นดาวนพเคราะห์เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในหลักวัน เนื่องจากอยู่ใกล้โลก และดาวจักรราศีที่เคลื่อนที่ในหลักเดือนเพราะอยู่ไกลโลกมากกว่า

การที่คุณเกิดในตำแหน่งราศีอะไร คือการที่ดวงอาทิตย์อยู่ ณ จุดนั้นบนท้องฟ้าของปี จึงเป็นเหตุผลว่า ถ้าคุณเกิดในช่วงราศีธนู คุณจะไม่ได้เห็นกลุ่มดาว Sagittarius แน่ๆ เพราะมันอยู่ด้านหลังดวงอาทิตย์นั่นเอง
พอเป็นแบบนี้แล้ว เราจะพบปัญหาสองข้อก็คือ

1. หากมนุษย์ไม่ได้อยู่บนดาวเคราะห์ในระบบสุริยจักรวาล เราจะดูดาวนพเคราะห์อย่างไร และอีกคำถามคือ ถ้ามีการค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่เราจะอัป Patch ตำราอย่างไร หรือถ้า International Astronomical Union (IAU) มีมติตัดดาวอังคารออกจากการเป็นเคราะห์ในระบบสุริยะ ตำราโหราศาสตร์นพเคราะห์จะบั๊กหรือไม่

2. แท้จริงแล้ว กลุ่มดาวที่เราเห็นจากมุมมองบนโลก เป็นการประกอบสร้างภาพจากกลุ่มดาวที่แท้จริงแล้วอยู่ห่างไกลออกไป เหมือนการเกิดสุริยุปราคา ไม่ได้แปลว่าดวงจันทร์ไปชนดวงอาทิตย์ แต่เพราะมันเคลื่อนที่มาใกล้กันจากมุมของเรา (เรียกสิ่งนี้ว่า Parallax) นั่นหมายความว่าหากมุมมองเปลี่ยนไป กลุ่มดาวนั้นจะพังหมดเลย และดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง เพราะดาวที่เรามองเห็นว่าอยู่ใกล้กันจากมุมมองของโลก แท้จริงแล้วนั้นอาจอยู่ห่างกันหลายร้อยปีแสง
ดังนั้น ถ้าตำราดูดาวสามารถบอกชีวิตของคนบนโลกได้ เราอาจต้องหาคำอธิบายว่า

- แล้วถ้ามนุษย์เดินทางไปยังจุดอื่นในทางช้างเผือก และอาศัยอยู่ในระบบสุริยะอื่น เราจะยังได้รับอิทธิพลจากตำราโหราศาสตร์อยู่หรือไม่?

- ถ้าได้ เพราะอะไร? เพราะเราเกิดที่นี่หรือเปล่า จึงเป็นคุณสมบัติที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แปลว่าต่อให้เราย้ายดาว ชะตาชีวิต ปีชงของเรา ก็จะผูกติดกับระบบสุริยะเดิม?

- และถ้าไม่ คำถามต่อไปก็คือ แล้วดาวนพเคราะห์ในระบบสุริยะอื่นที่เราไปอยู่จะส่งผลกับเราได้หรือไม่ และเราจำเป็นต้องสร้างกลุ่มดาวจักราศีใหม่หรือไม่ เพราะไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน

แล้วถ้าเราต้องเขียนตำราโหราศาสตร์จากดาวนพเคราะห์ในระบบสุริยะใหม่ และกลุ่มดาวจักรราศี ที่ถูกนิยามขึ้นใหม่โดย IAU หรือ International Astrological Union เราจะเลือกใช้วิธีการสังเกตใหม่ตั้งแต่ต้น (เรียกว่า Empiricism) หรือเอาตำราที่มีอยู่แล้วในระบบสุริยจักรวาลของเรามาอธิบายถึงความเชื่อมโยงได้เลย (เรียกว่า Rationalism)

หากเราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ไทยอาจเป็นประเทศที่สามารถก่อตั้ง International Astrological Union ได้ และจะมีบทบาทอย่างมากเมื่อมนุษย์กลายเป็นสิ่งมีชีวิตและต้องเดินทางระหว่างดวงดาว (Interstellar Travel)

และเราอาจนำองค์ความรู้นี้บันทึกลงใน DNA Storage เพื่อให้ความรู้นี้ยังคงอยู่ต่อไป หรือหากเราพบเจอเอเลียน เราอาจส่งต่อองค์ความรู้นี้ให้พวกเขาได้ด้วยเช่นกัน คล้ายๆ กับโครงการ Golden Record ของ Carl Sagan และแถมให้อีกข้อว่า ตำราโหราศาสตร์นั้นควรมีการอ้างอิง Timeline และ Timeframe ด้วยเช่นกัน เนื่องจากดาวบนท้องฟ้านั้นก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆ แค่มนุษย์ถือกำเนิดบนโลกขึ้นมาแค่หลักไม่กี่หมื่นปี เราจึงอาจไม่ได้เห็นการเคลื่อนที่นั้น หากตำราโหราศาสตร์ไม่ได้คำนึงถึงการเคลื่อนที่ในหลักเวลาดังกล่าว เมื่อดาราจักรทางช้างเผือกของเรา ผนวกรวมกับดาราจักรแอนโดรเมดา ตำราโหราศาสตร์ของเราอาจบั๊กครั้งใหญ่ก็ได้ "
กำลังโหลดความคิดเห็น