ในห้วงแห่งเวลาตั้งแต่ 19 เมษายน 2566-16 ตุลาคม 2566 ดาวพฤหัสฯ และราหูทับลัคนา และดาวอาทิตย์ในดวงเมือง จึงทำให้ความสับสนวุ่นวายในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมที่ถูกบิดเบือนจนเสียสมดุลระหว่างธรรมและอธรรม โดยเอียงไปทางฝ่ายอธรรม จึงทำให้ผู้ที่รักความเป็นธรรมทั้งหลายรู้สึกท้อแท้ และเสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมของไทยชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และที่เป็นเช่นนี้ถ้ามองในแง่วิชาโหราศาสตร์บอกได้ว่าเป็นเพราะราหูที่ร่วมกับดาวพฤหัสฯ ในเรือนตนุเข้าทำนองพระไปอยู่ในหมู่โจร และถูกโจรครอบงำ
เกี่ยวกับความวุ่นวายดังกล่าวข้างต้น ได้มีนักวิชาการด้านกฎหมายและผู้รู้ทางด้านบริหาร ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยเฉพาะใน 3 กรณีดังต่อไปนี้
1. กรณีของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งทำผิดกฎหมาย และถูกศาลพิพากษาจำคุกแต่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ และเที่ยวไปไหนต่อไหนอย่างเปิดเผย โดยที่รัฐบาลไทยเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ จนกระทั่งผู้กระทำผิดกลับเข้ามายังประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
แต่ไม่ปรากฏว่านักโทษหนีคุกไม่ต้องนอนคุกกลับไปนอนในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยแทน โดยอาศัยช่องว่าง ช่องโหว่ทางด้านกฎหมาย และการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่ม จึงทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเกิดความท้อแท้ ท้อถอย และเสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมที่ปล่อยให้มีการเลือกปฏิบัติ จนทำให้นักโทษผู้มีอิทธิพลทางด้านการเงินกลายเป็นอภิสิทธิชน
2. กรณียิงเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสารวัตรถึงแก่ความตายที่บ้านกำนัน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและเหตุเกิดในงานเลี้ยงซึ่งผู้ร่วมงานส่วนหนึ่งเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แต่ปล่อยให้มือปืนหลบหนีไปได้ ทั้งๆ ที่เป็นการกระทำผิดเฉพาะหน้า และที่ยิ่งกว่านั้นเมื่อบิ๊กโจ๊กหรือพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ได้เข้าไปดำเนินการสอบสวน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตกเป็นผู้ต้องหาในฐานะละเว้นการปฏิบัติตามมาตรา 157 หลายราย
3. กรณีล่าสุดคือ การที่หน่วยคอมมานโดมีอาวุธครบมือบุกเข้าตรวจค้นบ้านบิ๊กโจ๊กหรือพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้แล้ว
เกี่ยวกับกรณีนี้ ทำให้ประชาชนเกิดข้อกังขาในหลายๆ ประเด็น โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าทำไมการตรวจค้นบ้านตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับรอง ผบ.ตร.จึงต้องใช้หน่วยคอมมานโดมีอาวุธครบมือ เฉกเช่นการค้นเพื่อตามจับผู้ร้ายอุกฉกรรจ์ และที่น่าสงสัยยิ่งกว่านี้ก็คือ การตรวจค้นได้กระทำก่อนมีการประชุมแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งบิ๊กโจ๊กเป็นแคนดิเดตอยู่ด้วย
เกี่ยวกับ 3 กรณีดังกล่าวนี้ นอกจากนักวิชาการ และนักบริหารได้ออกมาแสดงความเห็นแล้วได้มีบรรดาหมอดูทั้งหลายออกมาแสดงความคิดเห็นด้วย
ดังนั้น ผู้เขียนในฐานะโหรสมัครเล่นจึงใคร่ขอแสดงความคิดเห็นดังต่อไปนี้
ในช่วงที่เกิดความวุ่นวายทางสังคม และทำให้ประชาชนรู้สึกท้อแท้ และเสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมดังกล่าวแล้วข้างต้น ถ้ามองในทัศนะของโหรแล้ว บอกได้ว่าเกิดจากดาวราหูและดาวพฤหัสฯ โคจรมาทับลัคนาและอาทิตย์ ซึ่งสามารถอธิบายขยายความในเชิงวิชาการด้านโหราศาสตร์ได้ดังนี้
1. ดาวพฤหัสฯ หมายถึงคุณธรรม จริยธรรม ความถูกต้องและความยุติธรรม
2. ดาวราหูหมายถึงความโลภ ความโง่ และความเห็นแก่ตัว
ดังนั้น เมื่อดาวสองดวงนี้มาอยู่เรือนเดียวกัน ราหูจะครอบงำดาวพฤหัสฯ ทำให้ความถูกต้อง ความยุติธรรมถูกบิดเบือน
แต่จากวันที่ 17 ตุลาคมไปเป็นเวลาปีครึ่ง ดาวราหูอยู่เรือนวินาศทำให้หมดอิทธิพล ส่วนดาวพฤหัสฯ จะยังคงทับลัคนา และอาทิตย์ไปจนถึงเดือนเมษายน จึงทำให้คนดีโดดเด่น และคนเลวอับแสง บางรายติดคุก บางรายเจ็บป่วย และบางรายถึงตายด้วยอุบัติเหตุใหญ่ สุขภาพให้ระวังเกี่ยวกับเหงือกและฟัน