"ทนง ขันทอง" วิเคราะห์ 10 ปัจจัย ปี 2024 เสี่ยงต่อการเงิน เศรษฐกิจ การเมือง และภูมิรัฐศาสตร์โลก
วันที่ 20 ธ.ค. 2566 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "จับตา 10 ปัจจัย ปี 2024 การเงิน เศรษฐกิจ การเมือง และภูมิรัฐศาสตร์โลก"
โดย นายทนง กล่าวในช่วงนึงว่า ปี 2024 นี้ น่าจะมีชีวิตอยู่อย่างอันตราย ความขัดแย้งจะมีเพิ่มขึ้น ในขณะที่มหาอำนาจสองฝ่าย ตะวันตกนำโดยอเมริกา อังกฤษ ตะวันออกนำโดยจีน รัสเซีย ความขัดแย้งมาถึงจุดที่เรียกได้ว่ามีการวัดดวง ไม่รู้จะตัดสินกันโดยกำลังหรือกลเม็ดทางด้านสงคราม การเงิน เศรษฐกิจ รวมทั้งพลังงานเข้าต่อสู้
สำหรับ 10 ปัจจัย ที่ต้องจับตาดูในปีหน้า ประกอบด้วย
1. สงครามยูเครน อาจสงบลงในกลางปีหน้า อเมริกา ยุโรป ไม่มีเงินหนุนอีกต่อไป
2. สงครามอิสราเอล คาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น มีหลายประเทศเข้าร่วม ขยายวงมากขึ้น แล้วถ้าอิสราเอลไม่สามารถชนะฮามาสได้ จะใช้ไม้ตายคือนิวเคลียร์หรือไม่
3. หนี้สหรัฐฯ 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ครบกำหนดชำระปีหน้า เป็นปัญหาใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งต้องออกพันธบัตรใหม่เพื่อโรลโอเวอร์ แต่ใครจะเข้ามาซื้อ เอกชนไม่มีกำลังซื้อ จีนก็ลดการถือครองพันธบัตร
อเมริกา บวกกับงบขาดดุล 2 ล้านล้าน ดังนั้นสหรัฐฯ ต้องออกพันธบัตรเกือบ 10 ล้านล้าน จะออกมาท่วมโลก ทำให้ความเชื่อมั่นในดอลลาร์ที่ไม่มีทรัพย์สินหนุนหลัง จะปั่นป่วน ระดับดอกเบี้ยไม่น่ายืนได้นาน เนื่องจากภาระการชำระหนี้รัฐบาลสูง พันธบัตรที่จะออกมาเป็นระเบิดเวลาลูกหนึ่งที่ทดสอบตลาดบอนด์อเมริกา ต่อความน่าเชื่อถือว่ายังเกรดเออยู่หรือเปล่า
4. เฟดจะกลับมาทำคิวอีหรือไม่ คงไม่มีทางเลือกถ้าเอกชน กองทุนต่าง ๆ รัฐบาลต่างชาติ ไม่เข้ามาซื้อพันธบัตรอเมริกา หนี้ครบ 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ คลังต้องทยอยออกพันธบัตรครั้งละหลายหมื่นล้าน ผู้ซื้อรายสุดท้ายก็คือเฟดเอง ซึ่งก็ต้องช่วยแบ่งเบาภารัฐบาลด้วยการลดดอกเบี้ยลง ทำให้ตลาดหุ้นขานรับ ถ้าไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อ ก็ถือว่ายกธงขาวให้เงินเฟ้อ
5. การออกดอลลาร์ดิจิทัล มีความเป็นไปได้ ปีหน้าหรือปีถัดไป เพื่อแก้ไขหนี้สหรัฐฯ เพราะเงินดิจิทัลไม่สามารถอนมาเก็บที่บ้านได้ ต้องอยู่ในบัญชีธนาคารใดธนาคารหนึ่ง หรือจะเป็นเฟดก็ได้ เป็นไปได้ที่เฟดจะเข้ามายุ่มย่ามมากขึ้น และลดดอกเบี้ยเพื่อลดภาระหนี้รัฐบาล และยังตั้งโปรแกรมเงินดิจิทัลได้ เช่นให้เงินฝากถูกหัก 10% เพื่อไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล นี่ก็เป็นอีกมาตราการที่มีความเสี่ยง
6. ทองคำ คงได้เห็นราคานิวไฮอีก เนื่องจากนักลงทุนตอนนี้ไม่มั่นใจในสถานการณ์หนี้สหรัฐฯ ซึ่งเป็นอานิสงส์ต่อทองคำ เพราะสวนทางกับค่าดอลลาร์
7. เปโตรหยวนจะมาเบียดเปโตรดอลลาร์ ขณะะนี้เริ่มมีการซื้อขายน้ำมันด้วยสกุลหยวนมากขึ้น ซึ่งจะกระทบดอลลาร์แน่นอน ยิ่งกลุ่มบริกส์รวมตัวกันได้มากขึ้นก็ยิ่งออกจากระบบดอลลาร์มากขึ้น เข้าสู่โค้งสุดท้ายเปโตรดอลลาร์ก็ว่าได้
8. สมาชิกกลุ่มบริกส์จะเพิ่มมากขึ้น มีบทบาทยิ่งขึ้น ดอลลาร์จะค่อย ๆ เสื่อมถดถอยไป
9. ปลายปี 2024 จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา มีควมเป็นไปได้สูงที่ทรัมป์จะคัมแบ็ก เชื่อว่าคราวก่อนมีการโกงทำให้ไบเดนชนะ ถ้าโกงรอบสอง อาจเกิดสงครามกลางเมืองได้
10. ความขัดแย้งขยายวงมาเอเชีย เป็นอีกความเสี่ยงหนึ่ง เพื่อนบ้านเราอย่างเมียนมาก็เผชิญสงครามภายใน เลือกตั้งปีหน้าที่ไต้หวันที่อาจเกิดความขัดแย้ง ที่น่ากังวลอีกอย่างฟิลิปปินส์ พร้อมท้าทายจีนในทะเลจีนใต้ เทหมดหน้าตักให้อเมริกาเข้าไปตั้งฐานทัพในการปิดล้อมจีน