"ทนง ขันทอง" ชี้ "กลุ่มบริกส์" ตอนนี้มีอิทธิพลต่อจีดีพีโลกแซงหน้า G7 ไปเรียบร้อยแล้ว ชมไทยสมัครเป็นสมาชิกไม่ตกขบวนครั้งสำคัญ จับตาซาอุฯ เข้าร่วมจะทำให้ระบบการเงินโลกเปลี่ยนเพราะไม่จำเป็นต้องขายน้ำมันเป็นเงินยูเอสดอลลาร์อีกต่อไป
วันที่ 21 ส.ค. 2566 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "BRICS Summit 2023 ตัวพลิกเกมระบบการเงินโลก"
นายทนงกล่าวในช่วงหนึ่งว่า ไทยเป็น 1 ใน 23 ประเทศที่ยื่นใบสมัครเข้าร่วมกลุ่มบริกส์ในครั้งนี้ ถือว่าดีที่ไม่ตกขบวนรถไฟครั้งสำคัญ กลุ่มบริกส์จะเป็นตัวแทนของประเทศกำลังพัฒนา หากประเทศกำลังพัฒนาสามารถรวมตัวกันได้ จะมีอำนาจการต่อรอง และปัจจุบันนี้ความสำคัญของกลุ่มบริกส์แซงหน้ากลุ่ม G7 ไปเรียบร้อยแล้ว จีดีพีกลุ่มบริกส์ 5 ประเทศ จีน รัสเซีย บราซิล อินเดีย แอฟริกาใต้ รวมกันแล้วมีผลต่อการเติบโตของจีดีพีโลกถึง 31.5% ส่วน G7 มี 30.7% เท่านั้นเอง
ประเทศที่กำลังพัฒนามีภาษีดีกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ตรงที่มีพลังงาน มีสินค้าโภคภัณฑ์ มีตลาดแรงงานที่ถูกกว่า มีตลาดผู้บริโภคที่กำลังเติบโต มีจีดีพีที่เฉลี่ยแล้วโตกว่าจีดีพีประเทศที่พัฒนาแล้ว
ประเทศจะเข้าร่วมในครั้งนี้ที่สำคัญคือซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะทำให้กลุ่มบริกส์เข้มแข็งเรื่องพลังงาน รวมถึง UAE ด้วย บวกกับรัสเซีย หากมีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเรื่องพลังงาน อำนาจการต่อรองก็จะอยู่กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ก็จะเป็นการบีบยุโรป เพราะยุโรปไม่มีพลังงาน ไม่มีสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่มีวัตถุดิบ ยิ่งเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายรัฐประหารที่แอฟริกา อย่าลืมแอฟริกาเป็นแหล่งวัตถุดิบมหาศาลของฝรั่งเศส เป็นที่ป้อนวัตถุดิบทั้งหลายให้ยุโรป ถ้าเกิดสงครามในแอฟริกาปลดแอกลัทธิล่าอาณานิคมโดยรัสเซีย ซึ่งตอนนี้ก็ส่งพวกวากเนอร์เข้าไปแล้ว และจีนเองก็ให้การสนับสนุนเรื่องการเงิน ถ้าแอฟริกาปลดแอกจากยุโรป เกมโอเวอร์สำหรับยุโรปเลย
ซาอุฯ เมื่อร่วมบริกส์แล้วจะทำให้ระบบการเงินโลกเปลี่ยน เพราะไม่จำเป็นที่ซาอุฯต้องขายน้ำมันเป็นเงินยูเอสดอลลาร์อีกต่อไป ขายเป็นสกุลเงินอื่น หรือแลกเป็นทองคำก็เป็นไปได้ นี่คือความเข้มแข็งที่จะเกิดขึ้น
