"ทนง" ชี้หลังรัฐประหาร "ไนเจอร์" ส่อกลายเป็นพื้นที่ทำให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ อาจเป็นสมรภูมิที่ประลองกำลังระหว่าง "ฝรั่งเศส" เจ้าอาณานิคมเดิม กับ "รัสเซีย" ที่ต้องการจะเพิ่มบทบาทในภูมิภาคนี้
วันที่ 8 ส.ค. 2566 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "ไนเจอร์จะกลายเป็นสมรภูมิใหญ่ของแอฟริกา?"
นายทนงกล่าวในช่วงหนึ่งว่า ตอนนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อของไนเจอร์ ว่าจะเป็นสมรภูมิก่อให้เกิดสงครามใหญ่หรือไม่ ไนเจอร์มีความสำคัญคือเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน และกำลังจะเป็นสมรภูมิที่ประลองกำลังภายในกันระหว่างฝรั่งเศสกับรัสเซียที่ต้องการจะเพิ่มบทบาทในภูมิภาคนี้
ประเด็นสำคัญตอนนี้ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ ยุโรป กำลังรวมตัวต่อต้านรัฐประหารไนเจอร์ เพราะถ้าต้องเสียไนเจอร์ไป จะเป็นการสูญเสียอิทธิพลของฝรั่งเศสและตะวันตกในแอฟริกา ที่มีแนวโน้มปลดแอกจากลัทธิล่าอาณานิคมของตะวันตก และคงหันไปร่วมมือใกล้ชิดกับรัสเซียและจีนมากขึ้น
ทั้งนี้ กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) ได้กำหนดเส้นตายวันที่ 6 ส.ค. ขู่ให้ทางคณะรัฐประหารไนเจอร์ต้องคืนอำนาจให้ประธานาธิบดีบาซูม ปรากฏว่าก็ไม่เกิดอะไรขึ้น และหลังจากนั้นคณะรัฐประหารไนเจอร์ก็ประกาศปิดน่านฟ้าแบบไม่มีกำหนด พร้อมกับให้ข่าวว่ามีกองกำลังต่างชาติประเทศหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าประเทศไหน กำลังคิดที่จะบุกไปโจมตีไนเจอร์
ซึ่ง ECOWAS ต้องคิดหนัก การส่งกองกำลังแทรกแซงประเทศอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย ดูอย่างยูเครน สงครามลากยาว ต้องเป็นประเทศที่สายป่านยาวเท่านั้นถึงจะชนะ แล้วประเทศแอฟริกาตะวันตกประเทศไหนที่มีความเข้มแข็งทางทหาร เศรษฐกิจ การเงิน และประชาชนให้การสนับสนุนด้วย ฉะนั้น ECOWAS ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะส่งทหารเข้าไปประเทศอื่นได้ หรือคิดแค่ว่าก่อสงครามมันง่าย แต่จุดจบจะเป็นอย่างไร