หญิงสาวรายหนึ่งโพสต์ข้อความแฉพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นอาจารย์หรือนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ พบมีการคุกคามทางเพศ จิตใจ ควบคุม หลอกใช้ ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือองค์กรต่างๆ เข้าตรวจสอบพฤติกรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ ของบุคคลผู้นี้
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Plai Fon Bys” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนภัยหลังพฤติกรรมของนักวิทยาศาสตร์รายหนึ่งที่ชอบคุกคามทากเพศ จิตใจ และการวางตัวไม่เหมาะสมระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ การใช้ถ้อยคำหยาบคาย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพฤติกรรมและจริยธรรม โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“ตัดสินใจอยู่นานว่าจะออกมาพูดดีมั้ยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและพบว่าการออกมา Call Out มันช่วยเซฟน้องๆ หรือคนรอบตัวได้เยอะมาก
หลังจากที่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เราเอาแต่โทษตัวเองมาตลอด รู้สึกว่าตัวเองผิดและไร้ค่า ร้องไห้ทุกวัน สภาพจิตใจพังจนไม่รู้จะพังยังไง ผ่านการต่อสู้กับจิตใจตัวเองหนักมาก แอบคิดว่าเคสตัวเองน่าจะหนักสุด เพราะอดทนกับเขานานกว่าคนอื่นๆ จากคำพูดที่ว่า “พี่ยอมใจเธอเลย เธอเป็นเด็กที่อดทนกับพี่ได้นานที่สุดตั้งแต่พี่เคยเจอมา”
เพิ่งตาสว่างและค้นพบความจริงจากพี่ๆ หลายๆ คนและคนรอบตัว เรามองคนผิดมาตลอด พี่ๆ ในวงการวิทย์เลยชี้ให้เราเห็นถึงความผิดปกติของผู้ชายคนนี้ เราสอบถามน้องๆ พี่ๆ ในวงการที่มีชื่อเสียง หรืออาจารย์หลายคนก็ค้นพบคำตอบที่น่าตกใจในรูปแบบเดียวกัน
เราไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำกับผู้หญิงได้มากขนาดนี้ อยากเซฟความรู้สึกน้องๆ ที่เคยเจอเรื่องราวที่โหดร้าย รุนแรง ด่าทอ ต่อว่าให้อาย ถูกลดทอนศักดิ์ศรีและด้อยค่าความเป็นมนุษย์ ถูกทำลาย identity หรืออัตลักษณ์ของเหยื่อ ให้รู้สึกไม่เหลือความเป็นคน จนนำไปสู่การคิดฆ่าตัวตาย เราพบว่ามีผู้หญิงหลายคนที่โดนแบบนี้เหมือนเรา
ผู้หญิงบางคนรู้สึกโดนคุกคามทางร่างกายและจิตใจ ทักไปจีบ ทักหา โทร.มาตอนกลางคืนทุกวัน รวมถึงรุ่นพี่ในคณะเราและคนอื่นๆ หลังไมค์มาก็โดนด้วยค่ะ (ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ)
เราเพิ่งรู้ความจริงปีนี้เลยพยายามเก็บข้อมูลและทบทวนอย่างหนัก พยายามถามเขาว่ามันคือเรื่องจริงรึเปล่า คุณทำจริงรึเปล่า แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ตรงไปตรงมาสักครั้ง แถมบ่ายเบี่ยง ปกปิด และบิดเบือนความจริงกับเรา
อยากเตือนน้องๆ หรือคนรอบตัวจริงๆ ค่ะ คนคนนี้มาในรูปแบบของไอดอล คนฉลาดมีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ พูดจาน่าฟัง มีหลักการ แม้แต่เด็กโอลิมปิก หรือคนระดับ PhD หรือ ป.เอก รวมถึงอาจารย์หลายๆ คนยังมองเขาไม่ออก (พี่ๆ มาคุยกับเรา) มารู้ตัวอีกทีก็โดนเขาเล่นงาน และจิตใจพังกันแล้ว
เรายืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง จากที่เป็นคนรักและปกป้องเขามาตลอด จนมารู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูกต้อง
เรายังไม่เจอเหยื่อที่ถูกข่มขืนหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศนะคะ แต่การที่เราไม่เจอไม่ได้แปลว่าจะไม่มี เพราะขนาดคนที่เจอเคสเหมือนเรายังกลายเป็น PTSD (เป็นอาการที่เราเคยปากสั่น ตัวสั่นและพูดว่ากลัวแล้วๆเหมือนคนบ้าไปพักหนึ่ง หลังจากที่โดนเขา gaslight ตอนกระหน่ำโทร.มา) ผู้หญิงบางคนต้องหนี และกลัวเขา กลายเป็นฝันร้ายไปตลอดชีวิต
สำหรับเราที่รู้จักและสนิทสนมมานาน ผู้ชายคนนี้ฉลาดมาก เขารู้ว่ากฎหมายอะไรเอาผิดเขาไม่ได้ จึงเลือกที่จะทำร้ายจิตใจเหยื่อในรูปแบบนี้ และรู้ดีว่าเขาไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำเลยสักนิด ไม่งั้นคงหยุดไปแล้วค่ะ
เราในฐานะสื่อ อยากออกมาตั้งคำถามและ Call Out ถึงเรื่องนี้ เพื่อความยุติธรรมระหว่างผู้กระทำผิดกับผู้เสียหาย เราอยากให้สังคมตั้งคำถามว่ามันจริงเท็จแค่ไหน ทั้งพยาน ผู้เห็นเหตุการณ์ และผู้เสียหาย
อยากให้หลายๆ องค์กรตรวจสอบพฤติกรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณของผู้ชายคนนี้ คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นอาจารย์ หรือนักสื่อสารวิทยาศาสตร์
ถึงการวางตัวไม่เหมาะสมระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์
หรือการคุมคามทางเพศและจิตใจ ควบคุม หลอกใช้ ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายกับเด็กและผู้หญิง
เป้าหมายของเราไม่ได้ต้องการให้เขาติดคุกหรืออะไรนะคะ การติดคุกแต่ไม่ได้สำนึกผิด ไม่มีประโยชน์อะไร
เป้าหมายของเราคืออยากเห็นสังคมให้บทเรียนเขา จนเขาสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปว่าโคตรไม่ควรทำแบบนี้กับใคร เราเชื่อว่าตัวเราและสังคมจะให้โอกาส ให้อภัยได้ และเดินหน้ากันต่อ
สุดท้ายนี้ เราอยากขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ที่คอยอยู่ข้างๆ ซัปพอร์ตเราตลอด ที่ช่วยปลายผ่านความยากลำบากมาได้ เราโชคดีที่อยู่ในสังคมที่แข็งแรงมาก เลยฟื้นกลับมาได้ไว และตอนนี้เข้มแข็ง เติบโตมากๆ แล้วค่ะ
เราอยากเป็นเสียงเล็กๆ ได้ออกมาพูดถึงความจริงที่เกิดขึ้น และฝากแชร์เพื่อเตือนภัยนะคะ น้องๆ หรือใครที่เจอแบบนี้ทักมาได้เลยนะ”