สมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้างเปิดข้อมูล ผู้ประกอบการส่งออกแร่ยิบซัมไทยเดือด ร้อนหนัก ถูกโอมานบุกตลาดเพิ่มประมาณส่งออกแย่งลูกค้ากลุ่มประเทศเอเชีย จี้ภาครัฐเร่งช่วย เหลือด่วน เสนอลดค่าภาคหลวงส่งออก ปรับปรุงกฏระเบียบขอประทานบัตรให้เร็วขึ้น อนุญาตผลิตแร่ในพื้นที่ ส.ป.ก.
ศ.ดร. ลาลิต โจห์รี ที่ปรึกษาสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ล่าสุดทางด้านการตลาดการส่งออกแร่ยิปซัมของผู้ประกอบการไทย พบข้อมูลที่น่าสนใจ คือ กำลังถูกผู้ประกอบการแร่ยิปซัมจากประเทศโอมานแย่งตลาดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกในสัดส่วนที่สูงมาก ทั้งนี้ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ตามลำดับ
ประเทศโอมานสามารถส่งออกแร่ยิปซัมมากที่สุด ซึ่งในปี 2565 ตัวเลขส่งออกแร่ยิปซัม 9.5 ล้านตัน ปี 2566 คาดว่าตัวเลขส่งออกแร่ยิปซัมจะถึง 10 ล้านตัน ซึ่งเติบโตถึง 23% สาเหตุสำคัญคือ 1.ความต้องการแร่ยิปซัมในตลาดโลกสูงขึ้น เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแผ่นยิปซัมบอร์ดและซีเมนต์ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งมีการขยายตัวมาก 2. ผู้ส่งออกแร่ยิปซัมจากประเทศไทยซึ่งเคยเป็นผู้ส่งออกแร่ยิปซัมมากที่สุดในตลาดโลก แต่ภาครัฐไทยได้จำกัดการส่งออกเพื่อให้ใช้เป็นวัตถุดิบภายในประเทศ 3. แหล่งแร่ยิปซัมประเทศโอมานมีปริมาณมากที่สุดแห่งหนึ่งจึงทำให้ประเทศโอมานมีความสามารถในการส่งออกแร่ยิปซัมปริมาณมาก ประเทศโอมานส่งแร่ยิปซัมไปประเทศอินเดีย 48% ของยอดส่งออกทั้งหมด และส่งออกแร่ยิปซัมไปประเทศบังคลาเทศ แอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ตามลำดับ
ดร.ลาลิตกล่าวว่า สถานะประเทศโอมานจะมีตัวเลขส่งออกมากขึ้นในอนาคต
เนื่องด้วยนโยบายภาครัฐของโอมานสนับสนุนให้นักลงทุนจากต่างประเทศลงทุนผลิตแร่ยิปซัมในประเทศเพื่อส่งออกและใช้วัตถุดิบพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตแผ่นยิปซัมบอร์ดและซีเมนต์ เพื่อใช้ในประเทศและส่งออก ในปี 2560 รัฐบาลโอมานอนุมัติโครงการเหมืองแร่ในรัฐ Shaleem เน้นการลงทุนเหมืองยิปซัม จะผลิต 4 ล้านตันต่อปี จะแล้วเสร็จในปี 2570
เขากล่าวต่อไปว่า ในรัฐ Yanqul บริษัทจากประเทศจีนได้พัฒนาเหมืองแร่ยิปซัมผลิตปีละ 2 ล้านตัน ในปี 2568 แต่อย่างไรก็ตาม ระยะทางจากเหมืองแร่ยิปซัมดังกล่าว 2 แห่ง ถึงท่าเรือระยะทางขนส่งค่อนข้างไกล ถือว่าไม่ได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิตในการส่งออกแร่ยิปซัม ดังนั้นจะต้องประเมินต้นทุนการผลิตและขนส่ง ว่าจะแข่งขันส่งออกแร่ยิปซัมในตลาดโลกได้หรือไม่ ที่จะมีผลกระทบด้านลบต่อผู้ประกอบการแร่ไทย ซึ่งผู้ประกอบการแร่ไทยเห็นว่า เเหล่งยิปชั่ม 2 เเหล่งใหม่ มีระยะขนส่งที่ไกลจากท่าเรือพอประมาณ
“ภาครัฐควรมีนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการแร่ยิปซัมไทยเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และจะได้รักษาส่วนแบ่งตลาดแร่ยิปซัมไทยได้ เช่น ไม่เพิ่มค่าภาคหลวงส่งออกหรือลดค่าภาคหลวงลง ปรับปรุงกฎและระเบียบในการขออาชญาบัตรและประทานบัตรให้รวดเร็วยิ่งขึ้น อนุญาตผลิตแร่ประเภทต่างๆ ในพื้นที่ สปก. เพื่อมีแหล่งแร่ยิปซัมได้มากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มรายได้ภาครัฐในการได้รับค่าภาคหลวง ภาษี เพิ่มการจ้างงานในพื้นที่ชนบท และควรมีมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆ ต่อผู้ประกอบการแร่ยิปซัมด้วย” ที่ปรึกษาสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้างกล่าว
p