โค้งสุดท้ายปลายปีกับเศรษฐกิจโลกที่รายล้อมด้วยสงคราม

บทความนี้ได้เรียบเรียงจาก “แวนเทจ มาร์เก็ตส์”

ก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจโค้งสุดท้ายของปีนี้กับตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางของแต่ละประเทศ โดยธนาคารกลางของญี่ปุ่นก่อนหน้านี้มีกระแสในการเปลี่ยนแปลงนโยบาย แต่สุดท้ายก็ยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยและนโยบายผ่อนคลายยังคงอยู่ที่เดิมซึ่งทำให้ค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าต่อไป
ส่วนทางรัสเซียได้มีการประกาศจำกัดการขายน้ำมันเบนซินและดีเซลให้กับทั่วโลกเป็นการชั่วคราวโดยอ้างว่าเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดเชื้อเพลิงภายในรัสเซียแต่สุดท้ายก็ยกเลิกมาตรการไป ส่วนการประชุมของโอเปกยังคงมาตรการไว้เช่นเดิมโดยยังคงลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปี

แวนเทจ มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือนก่อนมีประเด็นเรื่อง Government shutdown ที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาแต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนเช่นปีก่อนๆ ส่วนตัวเลขทางด้านการจ้างงานก็ยังคงอยู่ในแนวโน้มที่ดี โดยตัวเลข NFP (Non-Farm Employment Change) ของสหรัฐอเมริกาออกมาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 336K ซึ่งมากกว่าตัวเลขครั้งก่อน

ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาล่าสุดออกมาอยู่ที่ระดับ 3.7% เท่ากับตัวเลขครั้งก่อน โดยทาง เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ยังคงมีความมั่นใจว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังคงแข็งแกร่ง

ในขณะที่ตลาดกำลังจับตาแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของทางสหรัฐอเมริกาที่ยังเหลืออีกหนึ่งครั้งในปีนี้ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ได้เกิดสงครามขึ้นในพื้นที่ตะวันออกกลาง จากการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาส ซึ่งทำให้เกิดการตอบโต้กลับของอิสราเอลอย่างรุนแรงในพื้นที่ฉนวนกาซาที่เป็นพื้นที่ของชาวปาเลสไตน์ โดยอิสราเอลนั้นมีประเทศอเมริกาคอยซัปพอร์ต หลังจากเกิดการโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซาทำให้อิหร่านและประเทศโดยรอบได้ออกหน้าสนับสนุนมากขึ้นเนื่องจากไม่พอใจการโจมตีกลับของอิสราเอลที่ถูกมองว่าเกินกว่าเหตุ

การเคลื่อนไหวโจมตีทางภาคพื้นดินของอิสราเอลขณะนี้ต่างเป็นที่จับตามอง เนื่องจากอาจเป็นชนวนทำให้สงครามเกิดการขยายวงกว้างมากขึ้นโดยอาจมีประเทศที่ไม่พอใจอยู่ก่อนแล้วได้ตัดสินใจเข้าร่วมสงครามกับอิสราเอลด้วยอีกแรง ทำให้ขณะนี้อิสราเอลยังคงยืดระยะเวลาในการเคลื่อนทัพทางภาคพื้นดินออกไปแล้วว่าจะมีทางสหรัฐอเมริกาสนับสนุนอยู่เบื้องหลังก็ตาม

การรบกันของอิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้ส่งผลให้ราคาทองและราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นและเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้น นอกเหนือจากปัจจัยที่กดดันภาวะตลาดทั้งตัวเลขเงินเฟ้อรวมถึงภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นจากหนี้สินที่ได้รับผลจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง การเกิดขึ้นของสงครามในตะวันออกกลางในครั้งนี้เรายังคงต้องติดตามการขยายวงกว้างที่จะมีประเทศอื่นๆ ตัดสินใจเข้ารวมซึ่งอาจสร้างความรุนแรงจนยากที่จะควบคุมซึ่งอาจนำไปสู่สงครามโลกที่หลายๆ คนไม่อยากให้เกิด

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ในบทความจากแวนเทจมาร์เก็ตส์นี้เผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ผู้อ่านยังคงต้องศึกษาข้อมูลความเสี่ยงเพิ่มเติม นอกเหนือจากบทความนี้ เราจัดทำเนื้อหาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านที่เป็นนักลงทุนทุกท่าน เราตั้งใจอย่างแท้จริงในการมอบเนื้อหาที่ไร้อคติ ไร้การชี้แนะหรือชักชวนอย่างตรงไปตรงมาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้รับสาร