เช้าวันนี้ (21 ต.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 09.00-12.00 น. ชาวมุสลิมและชาวปาเลสไตน์ในประเทศไทยประมาณ 300 คนได้รวมตัวชุมนุมหน้าอาคารโอเชี่ยน ทาวเวอร์ 2 อโศก ที่ตั้งสถานทูตอิสราเอล เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดโจมตีฉนวนกาซา พร้อมทั้งคืนดินแดนที่ยึดครองและยินยอมให้จัดตั้งประเทศปาเลสไตน์
ทั้งนี้ ในระหว่างการชุมนุมมีการปราศรัยประณามอิสราเอลและสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้สนับสนุนการโจมตีฉนวนกาซา และให้กำลังใจกลุ่มอิสลามที่ต่อสู้บริเวณดังกล่าว
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ดูแลความมั่นคง พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น รอง ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี ได้นำกำลังตำรวจ 1 กองร้อยไปดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ และตำรวจ บก.น.5 ได้อำนวยความสะดวกการจราจร
นายซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี ผู้นำชีอะห์ในประเทศไทย กล่าวปราศรัยในที่ชุมนุมตอนหนึ่งว่า มุสลิมทั้งหมดเป็นเรือนร่างเดียวกัน มุสลิมที่อยู่ในประเทศไทยต้องเจ็บปวดด้วย เมื่ออิสราเอลได้รับอาวุธจากชาติพันธมิตรเริ่มต้นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ตั้งแต่ 75 ปีที่แล้ว โดยอเมริกาให้การสนับสนุนช่วยเหลือชาวยิว เราอยู่ในประเทศไทยไม่สามารถไปจับอาวุธได้ แต่เราทำอะไรได้เราก็จะทำ เราเป็นคนไทยจะไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย อย่าปิดกั้นกับการกดขี่ที่รุนแรงดังกล่าวของอิลสราเอล
นายซัยยิดสุไลมานกล่าวอีกว่า การยอมรับความกดขี่คือความชั่วที่ร้ายแรงที่สุด ถ้าปัญหาปาเลสไตน์ไม่จบโลกทั้งโลกต้องเจ็บปวด สหประชาชาติปกป้องสิทธิแค่ชาวยิว พี่น้องกลุ่มฮามาสจึงต้องสู้ถวายชีวิต แรงงานไทยถูกจับฮามาสจะไม่ทำอันตรายกับพวกเขา และได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุด แม้พวกเขาได้รับการถูกกดขี่ยังมีความเป็นมนุษย์ต่อสู้ แต่สื่อยังบอกพวกเขาเป็นผู้ก่อการร้าย ขอให้ใช้ความเป็นมนุษย์ตัดสิน วันนี้จึงมาแสดงสัญลักษญ์ ไม่สนับสนุนการระเบิดสถานทูตอิสราเอล ขอให้ไประเบิดที่อื่น เรามีความเป็นมุสลิมคือความเป็นมนุษย์ โดยการสาปแช่งให้ความกดขี่มันหายไป