xs
xsm
sm
md
lg

กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับจังหวัดนราธิวาส ศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ บนพื้นที่กว่า 18 ไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับจังหวัดนราธิวาส ศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส บนพื้นที่กว่า 18 ไร่ เพื่อเพิ่มสถานที่บริการทางวัฒนธรรมรองรับผู้ใช้บริการมากขึ้น

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เพื่อเพิ่มสถานที่บริการทางวัฒนธรรมรองรับผู้ใช้บริการมากขึ้น และครอบคลุมการให้บริการ เช่น เพิ่มห้องจัดแสดงเรื่องราวทางสังคมวัฒนธรรมของพิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาสให้สมบูรณ์ จัดสร้างโรงละคร ลานศิลปวัฒนธรรม ปรับปรุงอาคารสำนักงาน เป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ห้องประชุมสัมมนา ห้องถ่ายทอดองค์ความรู้และภูมิปัญญา พัฒนาพื้นที่และภูมิทัศน์ให้เป็นทั้งสถานที่พักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้ และจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ที่มีขนาดและรูปแบบหลากหลาย เพื่อสร้างคุณค่าทางสังคม และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ทั้งในเชิงอนุรักษ์ สืบสาน พัฒนาสร้างสรรค์ ต่อยอดนวัตกรรมต่างๆ สำหรับเยาวชน ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภูมิภาคต่างๆ ในประเทศไทย ตลอดถึงภูมิภาคอาเซียนและนานาชาติ

สืบเนื่องจากในปี ๒๕๖๕ สำนักงานต่างๆ จำนวน ๑๐ หน่วยงานในจังหวัดนราธิวาส จะต้องย้ายสำนักงานออกไปอยู่ ณ ศาลากลางแห่งที่ ๓ บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดนราธิวาส กระทรวงวัฒนธรรม จึงได้มีแผนที่จะพัฒนาพิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาสบนพื้นที่ ๑๘ ไร่ ๓ งาน ๔๖ ตารางวา เป็นศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ จึงได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ ณ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ ๒๐ -๒๑ มกราคม ๒๕๖๓ โดยนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสม (Feasibility Study) ของการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ ณ จังหวัดนราธิวาส โดยคำนึงถึงความเชื่อมโยงกับแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ การสร้างวัฒนธรรมภายใต้อัตลักษณ์ที่แตกต่างหลากหลาย และความพร้อมในการบริหารจัดการโครงการหลังก่อสร้างแล้วเสร็จเพื่อความยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคมและประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดความขัดแย้ง รวมทั้งการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน

การศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบศูนย์วัฒนธรรมฯ ในครั้งนี้ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส รวมถึงจังหวัดปัตตานีและจังหวัดยะลา โดยการออกแบบมีแนวคิดที่สะท้อนอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และเชื่อมโยงกับความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ที่จะสามารถสร้างความรู้และความเข้าใจของการอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งผลการศึกษาและออกแบบจะนำไปสู่การพิจารณาให้มีการก่อสร้างศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ ที่นอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้และให้บริการทางวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวจุดแรกที่นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนมาแวะชมก่อนไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ เช่น พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล อำเภอเมืองนราธิวาส พิพิธภัณฑ์วิถีวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์เรียนรู้อัลกุรอานคัดด้วยลายมือ ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชขุนละหาร อำเภอยี่งอ มัสยิดตะโละมาเนาะ ซึ่งปัจจุบันมีอายุกว่า ๔๐๐ ปีแล้ว ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานีและยะลา ตลอดจนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน อีกทั้งเชื่อมโยงไปยังเมืองสุไหงโก-ลก ที่ถูกกำหนดให้เป็นเมืองการค้าชายแดนประตูเชื่อมต่อไทย-มาเลเซีย ที่สามารถรองรับการเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ได้เป็นอย่างดี 
 










กำลังโหลดความคิดเห็น