แซวแรง! ชาวเน็ตตัดต่อภาพพิธา เทียบชั้น พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ติดอันดับ 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลระดับโลกในปี 2023 แต่คนละการจัดอันดับกัน แซะให้เป็นที่ตลกขบขัน
วันนี้ (16 ก.ย.) จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้รับการจัดอันดับ 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต Times 100 Next ในหมวดหมู่ผู้นำ (Leaders) ของนิตยสารไทม์ (Times) ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าได้รับเลือกร่วมกับ President of EU parliament, รัฐมนตรีสกอตแลนด์ เซียร์ราลีโอน, ผู้ว่าฯ ไทเป มอนนาเรย์ กาฐมาณฑุ, นักการเมืองญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา อาจจะเดินทางไปนิวยอร์ก งานกาลาของ TIME 2023 แล้วแวะเจอพี่น้องคนไทยที่สหรัฐฯ ไปในตัวด้วย ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่มีอยู่จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีชาวเน็ตรายหนึ่ง ทำภาพเปรียบเทียบระหว่างนายพิธา กับ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งติดอันดับ TIME 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลระดับโลกในปี 2023 เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และระบุว่า "ได้ปีเดียวกันด้วย น่าปลาบปลื้มใจแทนด้อมส้ม" กลายเป็นที่ตลกขบขันแก่ผู้พบเห็น
สำหรับ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย หนึ่งใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลระดับโลกในปี 2023 ข้อมูลจากนิตยสารไทม์ระบุว่า การแสดงแสนยานุภาพของกองทัพเมียนมาแสดงให้เห็นว่า พลเอกอาวุโสวัย 66 ปี มีอำนาจสูงสุดในประเทศที่มีประชากร 54 ล้านคน นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เขาเตือนว่าผู้สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยและกลุ่มชาติพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงอย่างนองเลือดจะถูกจัดการเพื่อสิ่งที่ดีทั้งหมด
นับตั้งแต่กลุ่มผู้ประท้วงและหมู่บ้านต่างๆ ถูกคุกคามจากปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับหมื่นราย และอีกกว่าล้านคนต้องไร้ที่อยู่ แม้กระทั่งก่อนที่จะยึดอำนาจ สหประชาชาติกล่าวหาว่าเขาสังหารหมู่ชาวมุสลิมโรฮิงญาด้วยเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้นำเมียนมากลับสู่รัฐนอกกฎหมาย และทำให้เมียนมาเป็นระบอบเผด็จการมากเป็นอันดับสองของโลก ตามดัชนีประชาธิปไตยปี 2022 ขององค์กรที่ชื่อว่า Economist Intelligence Unit มีเพียงอัฟกานิสถานที่ปกครองโดยกลุ่มตอลิบานเท่านั้นที่มีอันดับแย่กว่า