เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 เวลา 19.30 น. สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย (TTIA Thai Tuna Industry Association) และสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย (TPFA Thai Pet food Trade Association) ได้รับรางวัลสมาคมการค้ายอดเยี่ยมประจำปี 2566 (Trade Association Prestige Award 2023) จัดโดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาสมาคมการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อยกระดับพัฒนาสมาคมการค้าและผู้บริหารให้ดีเด่น ด้วยหลักเกณฑ์ Balanced Scorecard 4 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 ผลสำเร็จตามพันธกิจ, มิติที่ 2 ความสามารถในการบริหารจัดการ, มิติที่ 3 คุณภาพการให้บริการ, และมิติที่ 4 การบริหารองค์กร โดยพิธีรับมอบรางวัลจัดขึ้นในช่วงค่ำของงานสัมมนาใหญ่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประจำปี 2566 ภายใต้ Theme งาน Connect Sustainable Competitive ณ ห้อง Ballroom 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคม TTIA และนายกสมาคม TPFA กล่าวด้วยความยินดีว่า "ในปีนี้ทั้งสองสมาคมได้รับรางวัลสมาคมการค้ายอดเยี่ยมครบทั้ง 4 มิติ มีความภูมิใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความสำเร็จ จากความร่วมมือของคณะกรรมการบริหาร สมาชิก และพนักงานสมาคม ซึ่งต่างมีเป้าหมายการทำงานเดียวกันคือ อุตสาหกรรมเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านนโยบายหลักด้านความปลอดภัยอาหาร การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และจริยธรรมด้านแรงงาน
หลังจากนี้ทั้ง 2 สมาคมยังคงมุ่งมั่นรักษาคุณภาพไปพร้อมกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การสร้างเครือข่ายการทำงานเพื่อผลักดันนโยบายและแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ตลอดจนห่วงโซ่การผลิต โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ” และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “คณะกรรมการบริหารสมาคมมีนโยบายและสนับสนุนให้สมาคมเข้าร่วมกิจกรรมการประกวดสมาคมการค้าดีเด่นเป็นประจำทุกปี โดยที่ผ่านมาได้รับคำแนะนำจากทีมที่ปรึกษาที่เข้ามาตรวจประเมิน ซึ่งสมาคมได้นำมาทบทวนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”
ในค่ำคืนนี้มีกรรมการสมาคมให้เกียรติเป็นผู้แทนขึ้นรับรางวัล ได้แก่
คุณนรินทร์ นิรุตตินานนท์ อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย (TTIA) เป็นผู้แทนขึ้นรับรางวัล "สมาคมการค้ายอดเยี่ยม กลุ่มที่ 2 (จัดตั้ง 6-15 ปี)" โดย TTIA จัดตั้งเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2556
คุณวรวีร์ เอ่งฉ้วน เลขาธิการ สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย (TPFA) เป็นผู้แทนขึ้นรับรางวัล "สมาคมการค้ายอดเยี่ยม กลุ่มที่ 1 (จัดตั้ง 1 -5 ปี)" โดย TPFA จัดตั้งเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562
ดร.ชนินทร์ได้พูดถึงพันธกิจสำคัญ 3 เรื่อง ที่สมาคมเร่งผลักดันในขณะนี้ ประเด็นแรกคือ ความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งเป็นโอกาสในการเจรจาขอลดภาษีสินค้าทูน่า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดยุโรป ประเด็นที่สองคือ การตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั่วโลกให้ความสำคัญ และเป็นยุทธศาสตร์ของประเทศไทยด้วย
ปัจจุบันสมาชิกทั้งสองสมาคมนำหลักการ BCG (Bio-Circular-Green Economy) หรือเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ มีการนำส่วนสูญเสียจากการผลิต (Food loss food waste) มาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม และประเด็นที่สามคือ การสร้างความเข้าใจด้านจริยธรรมการสรรหาแรงงาน เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย ประเทศต้นทาง และหลักการสากล หรือองค์การแรงงานระหว่างประเทศ
สำหรับทิศทางของอุตสาหกรรมในช่วงต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้า ดร.ชนินทร์มองว่าประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพสูงมากในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทูน่า และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงให้อยู่แนวหน้าของโลกต่อไปได้ กล่าวคือ "อุตสาหกรรมมีองค์ความรู้ที่ถูกสั่งสมมานาน ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีไม่แพ้ใคร มีการปรับตัวและพัฒนาตลอดเวลา คุณภาพสินค้าได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้บริโภคทั่วโลก" ส่วนในบทบาทสมาคม ดร.ชนินทร์กล่าวว่า "สมาคมได้ทำงานร่วมกับภาครัฐ หน่วยงานเอกชน องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย กฎระเบียบ การเจรจาปลดล็อกมาตรการทางภาษีและที่มิใช่ภาษีต่างๆ"
ในท้ายนี้ ดร.ชนินทร์ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาองค์กรสมาคมการค้า ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ ตลอดจนองค์กรทั้งภายในและต่างประเทศ จึงขอเชิญชวนสมาคมการค้าต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมที่มีประโยชน์นี้