xs
xsm
sm
md
lg

ทนายปังชาคาเฟ่เผยปมยื่นโนติสร้าน "ปังชาเชียงราย" จริงๆ แล้วไม่ได้ต้องการ "กรรโชกทรัพย์"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทนายร้าน "ปังชาเชียงราย" เผยจากปากทีมกฎหมายของปังชาคาเฟ่เรียกค่าเสียหายแพงเพราะจะปั้นแบรนด์ให้เป็นลักชัวรี ไม่ได้ประสงค์ถึงขั้นดำเนินคดีฟ้องร้อง เพียงต้องการให้ยุติการละเมิด ยันไม่ได้ต้องการ "กรรโชกทรัพย์" เผยชื่อ "ปังชา" เคยยื่นขอกรมทรัพย์สินทางปัญญาเมื่อปี 2561 แต่ทางกรมฯ ไม่ให้สิทธิ ยื่นขอใหม่ปี 2565 ทางกรมฯ เห็นว่าเป็นคำที่แพร่หลายมาจากธุรกิจของแบรนด์จึงยอมให้จดทะเบียนในปี 2566

วันที่ 30 ส.ค. 66 ผู้ใช้เฟซบุ๊กเพจ "หมายจับกับบรรจง" ได้โพสต์ข้อความถึงกรณี ร้านลูกไก่ทอง-ปังชาคาเฟ่ เรียกค่าเสียหายจากน้องนิวร้าน "ปังชาเชียงราย" เหตุละเมิดเครื่องหมายการค้า จำนวน 102 ล้านบาท และร้าน "ทางช้างเผือก" หาดใหญ่ โดนเรียกค่าเสียหาย 7 แสนบาท ว่า

"คุณแก้ม" เจ้าของร้านลูกไก่ทอง-ปังชาคาเฟ่ ได้ติดต่อมาก่อน เบื้องต้นคือเธอก็ขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้น (ผมบอกให้ไปขอโทษร้านที่โดนโนติส ไม่ต้องขอโทษผม ผมไม่ใช่ผู้ได้รับผลกระทบ) และคุณแก้มบอกขอคุยสั้นๆ ก่อน น้ำเสียงแสดงความเสียใจ และยังไม่ตอบอะไรมาก เพราะตัวเธอไม่แม่นเรื่องกฎหมาย ขอปรึกษาทีมงาน และให้รอการแถลงชี้แจงอีกครั้งในเร็วๆ นี้

ต่อมา...ทีมกฎหมายของร้านคือสำนักงานทนายความแห่งหนึ่งติดต่อมาในเชิงปรึกษาถึงกระแสข่าวตอนนี้

ผมก็สอบถามหลายๆ เรื่อง เขาบอกขอให้ทางผู้บริหารร้านแถลงก่อน...

แต่ก็พอจะบอกข้อสงสัยบางข้อได้คร่าวๆเบื้องต้น ดังนี้... (ขอพิมพ์แบบสรุปนะ มันยาวรายละเอียดเยอะ)

1. ตอนนี้ส่งโนติสไปหาร้านอื่นๆ กี่แห่ง?

ตอบ : 2 แห่ง คือร้านที่เชียงราย กับที่หาดใหญ่ เพราะมีคนแจ้งมา อย่างที่เชียงรายมีลูกค้าเข้าใจผิดว่าเป็นสาขาของปังชาคาเฟ่ ส่วนอีกแห่งที่ 3 โทร.ไปหา แล้วยินดีแก้ไข จึงยังไม่ได้ส่งโนติส

2. ทำไมเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านที่เชียงราย คิดจากอะไร?

ตอบ : คิดจากมูลค่าแบรนด์ในตลาดของ "ปังชาคาเฟ่" ที่พยายามปั้นแบรนด์ให้เป็นลักชัวรี และย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า คือ 28 ก.ย. 2565 โดยเจ้าของแบรนด์เป็นฝ่ายกำหนดตัวเลข ไม่ใช่สำนักงานกฎหมาย

3. ทำไมเรียกค่าเสียหาย 7 แสนจากร้านที่หาดใหญ่?

ตอบ : ร้านที่หาดใหญ่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน จึงย้อนหลังไปนิดเดียว และไม่ได้ใช้คำว่า "ปังชา" เป็นชื่อร้านโดยตรง แต่มีชื่อในเมนูขนม และมีคำที่ปรากฏในป้ายทางเข้าร้าน

4. ทำไมถึงไม่เตือนก่อน โนติสเรียกค่าเสียหายทันที?

ตอบ : เพราะปกติโนติสต้องมีสภาพบังคับ ไม่งั้นผู้ประกอบการจะไม่ปฏิบัติตาม แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ประสงค์ถึงขั้นดำเนินคดีฟ้องร้อง เพียงต้องการให้ยุติการละเมิด ไม่งั้นคงใส่ชื่อบุคคลในหนังสือแจ้งแล้ว และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดำเนินการฟ้องร้องใดๆ

5. ทำไมถึงคิดว่าร้านอื่นๆ ละเมิด ทั้งที่คำว่า "ปังชา" เป็นคำสามัญ ที่ใครจะใช้ก็ได้ ตามที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาบอกมา?

ตอบ : เพราะหนังสือที่ได้รับการจดแจ้งฉบับล่าสุดที่ยื่นปี 2565 ทางกรมฯ ไม่ได้ให้ทางแบรนด์สละสิทธิคำว่า "ปังชา" จึงยึดถือสิทธิตามที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาออกหนังสือให้

6. ทำไมทางกรมฯ ถึงยอมให้จดคำนี้ "ปังชา" ได้ ในเมื่อเป็นคำสามัญที่เขาใช้กันมานานแล้ว?

ตอบ : เคยยื่นขอครั้งแรกเมื่อปี 2561 ตอนนั้นทางกรมฯ ไม่ให้สิทธิในคำนี้ แต่ต่อมาทางร้านได้ใช้เวลาอีก 4 ปีพิสูจน์ความแพร่หลายทางธุรกิจ ว่าเป็นคำที่แพร่หลายมาจากธุรกิจของแบรนด์เรา จึงยื่นอีกในปี 2565 และล่าสุดทางกรมฯ ยอมให้จดทะเบียนในปี 2566

7. แล้วจะเอายังไงต่อกับร้านที่มีคำว่า "ปังชา"?

ตอบ : ขึ้นกับทางผู้บริหารร้านที่จะชี้แจงกับสาธารณะต่อไป ส่วนที่ว่าทำไมถึงคิดว่ามีสิทธิ ได้ยึดถือสิทธิที่ได้รับเอกสารจากทางกรมฯ ต้องถามทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา

ฝ่ายกฎหมายมีการยกตัวอย่างชื่อแบรนด์ที่ได้ทะเบียนเครื่องหมายการค้ามา 2 ชื่อคือ "โออิชิ" และ "กระทิงแดง" ที่เป็นคำสามัญที่ได้สิทธิในเครื่องหมายการค้า

8. ได้เห็นกระแสสังคมตอนนี้แล้ว คิดอย่างไร?

ตอบ : เข้าใจอารมณ์สังคม ไม่ได้ต้องการเอาชนะ หรือโต้แย้งใดๆ และมีข้อมูลเอกสารบางส่วนในโซเชียลที่คลาดเคลื่อนไป มีการนำเอกสารจดทะเบียนของปี 61 มาวิเคราะห์ ทำให้คลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง และยืนยันว่าไม่ได้ต้องการ "กรรโชกทรัพย์" อย่างที่โดนกล่าวหา เพียงแต่ใช้สิทธิทางกฎหมายด้วยเจตนาสุจริต เพราะอยากให้แบรนด์เติบโตในทางธุรกิจไปไกล จึงจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา

ปล.ผมแนะนำทิ้งท้ายสั้นๆ "ไม่มีประโยชน์ถ้าคุณชนะ บนซากปรักหักพังของธุรกิจ เพราะธุรกิจบริการอยู่ได้ด้วยการสนับสนุนจากทางสังคม"

โพสต์นี้อาจจะไม่ได้เป๊ะๆ ทุกคำนะครับ แต่คำตอบคือประมาณนี้ เพราะพิมพ์จากความจำในการพูดคุยทางโทรศัพท์ ไม่ได้ไปบันทึกสัมภาษณ์ต่อหน้าครับ

เอาสั้นๆ เท่านี้ก่อน ที่เหลือรอให้เขาแถลงอย่างเป็นทางการในวันสองวันนี้ครับ...


กำลังโหลดความคิดเห็น