วันนี้ (22 ส.ค.) นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) ได้รับแจ้งจากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 พบการบุกรุกป่าชายเลนในพื้นที่บริเวณหมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 12 ตำบลตะโก อำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร
ในโอกาสนี้ ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลน จังหวัดชุมพร เร่งประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ ประกอบด้วยหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชพ.7 (ทุ่งตะโก), สารวัตรกำนันตำบลตะโก, ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 12 ต.ตะโก เพื่อร่วมกันตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ภายหลังการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพื้นที่ป่าชายเลน บริเวณหมู่ที่ 6 บ้านควนดิน และหมู่ที่ 12 บ้านห้วยคล้า ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร
โดยพบว่ามีการใช้รถแบ็กโฮไถปรับพื้นที่ป่าชายเลน มีการขุดร่องน้ำในพื้นที่ พบพันธุ์ไม้ป่าชายเลนถูกโค่นล้ม พื้นที่ป่าเสียหาย เนื้อที่ 2.66 ไร่ ค่าเสียหายของรัฐ 314,757.80 บาท พื้นที่ดังกล่าวคาบเกี่ยวกับแนวเขตป่าสงวนฯ ป่าเลนคลองตะโก คลองท่าทอง และคลองบางมุด และอยู่นอกเขตป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 และ 22 สิงหาคม 2543 แต่มีระบบนิเวศเป็นป่าชายเลน จึงเป็นป่าชายเลนโดยสภาพ
ขณะตรวจยึดพบ นายจันทรานน ญาณโสภณา คนขับรถแบ็กโฮ อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายจันทรานน ญาณโสภณา ผู้ถูกจับกุมส่งให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทุ่งตะโก สำหรับรถแบ็กโฮของกลางได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 12 บ้านห้วยคล้า ต.ตะโก เป็นที่เรียบร้อย ตาม ปจว.ข้อที่ 8 วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 20.09 น. คดีอาญาที่ 212/2566 ยึดทรัพย์ที่ 73/2566 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายอภิชัย เอกวนากุล กล่าวว่า การบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนในปัจจุบันมีจำนวนมาก ซึ่งนอกจากกลุ่มนายทุนและผู้บุกรุกแล้ว ก็ยังมีประชาชนทั่วไปและกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากที่ไม่ทราบว่าการบุกรุกบริเวณพื้นที่ป่าชายเลนนั้นมีความผิดและมีโทษทางอาญา รวมทั้งต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งต่อรัฐอีกด้วย ไม่ว่าจะมีเจตนาในการบุกรุกป่าหรือไม่ก็ตาม โดยที่ผ่านมากรม ทช.ได้ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล เพื่อเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
นอกจากนี้ กรมฯ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อรณรงค์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายด้านการบุกรุกและทำลายทรัพยากรป่าชายเลน ในโอกาสนี้ จึงอยากฝากให้หน่วยงานของรัฐ และเอกชน รวมถึงพี่น้องประชาชน ร่วมกันประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์ของป่าชายเลน
เนื่องจากป่าชายเลนนั้นมีความสำคัญและประโยชน์มากมาย เพราะป่าชายเลนเป็นแหล่งรวมทรัพยากรทั้งพืช สัตว์น้ำ และสัตว์บกนานาชนิด ซึ่งมีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศของธรรมชาติ
อีกทั้งยังช่วยลดความรุนแรงของคลื่นทะเล เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดินบริเวณชายฝั่ง และยังช่วยชะลอความเร็วของลมพายุให้ลดลงก่อนที่จะขึ้นสู่ฝั่งไม่ให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงกับพื้นที่ผู้อยู่อาศัย และพื้นที่ทำกินของชาวบ้านที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณชายฝั่ง สุดท้ายนี้ หากใครพบเห็นการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน หรือพบการทำประมงผิดกฎหมาย สามารถแจ้งมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่เร่งเข้าตรวจสอบ และช่วยเหลือได้ทันท่วงทีต่อไป