"สนธิ" โอเค "ทักษิณ" กลับไทย หากยอมติดคุกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่แก้ไขมาตรา 112 ตามที่พูด แจงครบเงื่อนไขที่พันธมิตรฯ ต่อสู้มาตลอด จึงไม่มีประเด็นที่ต้องไปทะเลาะอีก พร้อมโต้ข่าวลือเคลียร์กันแล้ว ยันไม่เคยคุยกัน
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร โพสต์ว่า นายทักษิณ ชินวัตร บิดา จะกลับไทย ในวันที่ 10 ส.ค. ที่สนามบินดอนเมือง ว่า "ทั้งหมดนี้ผมไม่รู้เรื่อง รู้แต่เพียงว่าคุณทักษิณจะกลับมาหลายครั้งแล้ว มีคนถามผมว่ารู้สึกยังไง ท่านผู้ชมที่เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็รู้อยู่แล้วว่าที่เราสู้กับคุณทักษิณในอดีตนั้น เราสู้อยู่สองประเด็น ประเด็นแรกคือการคอร์รัปชัน โดยที่คอร์รัปชันเชิงนโยบายหลายเรื่อง และคุณทักษิณได้ถูกพิพากษาตัดสินจำคุกโดยศาล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วคุณทักษิณก็หนีคดีไป
อีกเรื่องหนึ่งที่พวกเราสู้ ก็คือเรื่องที่ทักษิณนั้นในยุคแรกๆ ของการตั้งพรรคไทยรักไทยนั้นถูกแวดล้อมและมีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าจะมีส่วนร่วมในเรื่องของการไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
จนกระทั่งล่าสุดนี้พรรคเพื่อไทย โดยที่จริงๆ แล้วอยู่ภายใต้การดูแลและปกครองของทักษิณ ชินวัตร ก็มีนโยบายชัดเจนว่าจะจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องการเข้าไปแก้มาตรา 112 อย่างเด็ดขาด อันนี้ผมถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ถึงแม้ว่าคนอาจจะถามว่าคุณสนธิเชื่อได้หรือไง
ผมคิดว่าในที่สุดแล้ว คุณทักษิณอยู่ต่างประเทศถึง 17 ปี ร่อนเร่พเนจร ถึงจะมีเงินมากมายแค่ไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนกับอยู่ใกล้ลูกใกล้หลาน
เรื่องที่สอง คุณทักษิณบอกแล้วว่าจะกลับมายอมติดคุก แสดงว่าคุณทักษิณยินดีที่จะกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และก็รับผิดในการที่ตัวเองถูกพิพากษาจำคุก
ท่านผู้ชมครับ วางใจเป็นกลาง ถ้าสองเรื่องนี้เกิดขึ้น คือคุณทักษิณยอมรับว่าจะกลับมาติดคุก แสดงว่ายอมรับกระบวนการยุติธรรมไทย โอเค และประกาศชัดเจนโดยผ่านพรรคเพื่อไทย และคุณทักษิณพูดชัดเจนว่ายังคงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจผมไม่รู้ แต่เขายอมรับแล้วในทางสาธารณะ ต้องถือว่านี่คือหลักการที่ชัดเจน ผมถือว่าคุณทักษิณถ้ากลับมาติดคุกจริง ยอมรับความยุติธรรมของประเทศไทย ที่สำคัญยอมรับคำพิพากษาของศาลที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธย ผมถือว่าโอเคแล้ว
แล้วเรื่องที่สองที่คุณทักษิณแสดงเจตนารมณ์จุดยืนที่ชัดเจนโดยผ่านพรรคเพื่อไทย ว่ายังคงจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะไม่มีทางแก้มาตรา 112 ท่านผู้ชมครับ ถ้าครบสองเรื่องนี้ ซึ่งเราสู้มาตลอด เราไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องไปทะเลาะกับสายคุณทักษิณอีกต่อไป
ช่วงหลังมีการแชร์กันในไลน์ และสื่อมวลชนบางคนโพสต์โน่นโพสต์นี่ น่ารำคาญมาก ร่ำลือว่าคุณทักษิณ ชินวัตร ได้คุยกับคุณสนธิ คือผม เคลียร์กับผมเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินทางกลับเมืองไทย
ท่านผู้ชมครับ ผมขอยืนยัน ณ ที่นี้ว่าไม่เป็นความจริง ไม่เคยคุยกัน เท่าที่ผมทราบข้อมูลก็คือว่า คุณสนธิที่เขาพูดถึงไม่ใช่สนธิ ลิ้มทองกุล แต่เป็น พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ทำความเข้าใจหน่อยนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ปล่อยข่าว ปล่อยแบบซื่อบื้อไม่ระมัดระวังตัว คนที่แชร์ข่าวไปต่อเรื่อยๆ จากคนที่หนึ่งสองสามสี่ ผมไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่รำคาญ น่าเบื่อหน่าย เมื่อไหร่จะเลิกอมนิ้วมือตัวเองสักที ทำเป็นเด็กเล็กไปได้