รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com
(สรุปข่าวประจำวันที่ 12 - 18 มิ.ย. 2566)
อันดับ 1 : หยกปีนรั้วเตรียมพัฒน์ฯ สะเทือน ปมแต่งไปรเวทไปเรียน-ย้อมสีผม อ้างทำสัญญะไม่ได้ฆ่าใครตาย
สะเทือนโรงเรียนดัง เมื่อ น.ส.หยก อายุ 15 ปี (ขอสงวนชื่อและนามสกุล เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก) นักเคลื่อนไหวการเมือง อดีตผู้ต้องหาคดี 112 โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ระบุว่า ถูกไล่ออกจากโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพัฒนาการเพราะย้อมสีผมและแต่งชุดไปรเวตไปโรงเรียน พร้อมทั้งเล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้โต้ตอบกับครู ก่อนที่รองผู้อำนวยการโรงเรียนพูดว่าจะคืนเงินค่าเทอมให้ กระทั่งวันที่ 14 มิ.ย. หยกแต่งกายด้วยชุดไปรเวต ย้อมสีผม ปีนรั้วโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ โต้เถียงกับ รปภ. ที่เฝ้าประตู แล้วเคลื่อนไหวในลักษณะแบบนี้เป็นเวลา 3 วันติดกัน
ด้านโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ออกคำชี้แจงถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกปฏิเสธว่าไม่ได้ไล่ออก น.ส.หยก แต่นักเรียนไม่นำผู้ปกครองมามอบตัว อีกทั้งไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เช่น ไม่แต่งกายชุดนักเรียน ทำสีผม มาเรียนตามเวลาและรายวิชาตามที่พอใจ ไม่เข้าร่วมกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมหน้าเสาธง และอื่นๆ ถือว่าไม่ยอมรับกฎระเบียบและไม่เข้าสู่กระบวนการของโรงเรียน อีกครั้งหนึ่งระบุว่า การมอบตัวไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ต้องเป็นผู้ปกครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ปี 2546 ขณะที่ น.ส.หยกโต้กลับ อ้างว่าไม่ชอบแค่วิชาจริยธรรม ไม่เอาพิธีไหว้ครู ไม่ได้ดื้อแพ่งโง่ๆ และแค่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไม่ได้ฆ่าใครตาย
อนึ่ง คนที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ปกครองของ น.ส.หยก คือ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือผักบุ้ง อายุ 26 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องหาคดี 112
อันดับ 2 : ผู้การชลบุรีบอกรักผู้ต้องหา เท่าไหร่เขียนมาฟาดค่าเคลียร์คดี เจอไป 3 ข้อหาหนัก ม.157-รับสินบน-ข่มขืนใจผู้อื่น
สะเทือนวงการสีกากี เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ตำรวจ สภ.คูคต.จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และพวก ซึ่งเป็นตำรวจชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี) หลังจับกุมเครือข่ายเว็บไซต์การพนัน ได้ผู้ต้องหา 1 ราย แล้วปรากฎว่ามีการเจรจา พล.ต.ต.กัมพล พูดคุยเรื่องคดีความเส้นทางการเงินพัวพันกับครอบครัว ก่อนกล่าวว่า “เป้รักผู้การฯ เท่าไร เป้เขียนมา” ก่อนจะมีบุคคลที่เป็นพลเรือนอีก 2 คน ดึงตัวไปพูดคุย โดยเรียกเงินค่าเคลียร์คดี 120 ล้านบาท ก่อนจะต่อรองเหลือง 65 ล้านบาท
จากนั้นมีการนัดส่งเงิน 3 จุด แล้วยังให้เจ้าของเงินจ่ายอีก 30 ล้านบาท พร้อมกับขอเข้าเป็นหุ้นส่วนเว็บพนันออนไลน์ และยังเรียกเงินจากหุ้นส่วนอีกหลายครั้งรวม 50 ล้านบาท เรื่องนี้ทำให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ให้ควบคุมกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างใกล้ชิด และมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.กัมพล และข้าราชการตำรวจทั้ง 8 นาย มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ขณะที่โลกโซเชียลฯ ต่างฮีอฮากับประโยคบอกรักของนายตำรวจรายนี้
อนึ่ง พล.ต.ต.กัมพล ถูกแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ, มาตรา 149 เรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ และมาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่น ส่วนตำรวจนายอื่นยังไม่ได้เรียกตัว
อันดับ 3 : หุ้นไอทีวีอลเวง แยม ฐปณีย์แฉคลิปประชุมผู้ถือหุ้น ไม่ตรงรายงานการประชุม เรืองไกรบ่ยั่นสอบบัญชีที่ดินเทียบกัน
กรณีคำร้องการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขัดคุณสมบัติการลงสมัคร ส.ส.หรือไม่ ปรากฎว่ารายการข่าวสามมิติ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวซึ่งเป็นอดีตคนไอทีวี เผยแพร่คลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ตั้งข้อสังเกตว่าไม่ตรงกับรายงานการประชุม ทำให้นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวรับลูกว่ามีขบวนการสกัดไม่ให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่กลุ่มอินทัช ผู้ถือหุ้นใหญ่ไอทีวีแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งกรรมการและฝ่ายจัดการไอทีวีตรวจสอบข้อเท็จจริง
ภายหลังไอทีวี ชี้แจงว่า รายงานการประชุมนั้นสรุปสาระสำคัญเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ เท่านั้น เพื่อความกระชับและชัดเจน ไม่ได้จดบันทึกเป็นคำต่อคำ และไม่ได้ต้องการสื่อว่ายังประกอบกิจการสื่ออยู่ แต่หมายถึงยังคงดำเนินการอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยมิได้เลิกกิจการแต่อย่างใด ส่วนงบการเงินแค่ใช้ภายในบริษัทฯ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายเรืองไกรเปิดเผยว่า รองเลขาธิการ กกต.แจ้งผลพิจารณาคำร้องกรณีนายพิธาว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมือง และยืนยันหนังสือจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตอกย้ำว่าไอทีวีประกอบธุรกิจสื่อ
อนึ่ง นายเรืองไกรได้ร้อง กกต. ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินนายพิธา โดยพบว่าที่ดินปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า "เป็นทรัพย์ที่ได้รับจากการรับมรดก" ไม่สอดรับกับข้อมูลที่ยื่นเพิ่มเติม กรณีแจ้งการถือครองหุ้นไอทีวี เหตุใดจึงแตกต่างกัน
อันดับ 4 : ช็อกวงการมวย เปาป้อมเวที ONE ตัดสินใจจบชีวิต แชตบอกภรรยาขออโหสิกรรม คาดเกิดจากโรคซึมเศร้า
เรื่องช็อกในวงการมวยเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 16 มิ.ย. ส.ต.อ.วัชรินทร์ รัชนิพนธ์ อายุ 33 ปี ผู้บังคับหมู่จเรตำรวจ วงการมวยรู้จักกันในฉายา “เปาป้อม” ครูมวยและกรรมการมวยชื่อดัง ตัดสินใจยิงตัวตาย เหตุเกิดในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 101 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ สอบปากคำ น.ส.นันธิดา หนูนุ่น อายุ 37 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.อ.วัชรินทร์อยู่บ้านคนเดียว ส่วน น.ส.นันธิดาไปทำงานเป็นพนักงานธนาคารกสิกรไทย สำนักราษฎร์บูรณะ เมื่อกลับถึงบ้านพบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว ที่ผ่านมาสามีมักจะเครียดจากการทำงานและมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า
ด้านผู้คนในวงการมวยต่างโพสต์ภาพและข้อความไว้อาลัยแก่การจากไปของเปาป้อมจำนวนมาก รายงานระบุว่าเบื้องต้นเชื่อได้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากเปาป้อมเป็นโรคซึมเศร้ารวมถึงเครียด ครั้งหนึ่งเคยบอกกับภรรยาและผู้บังคับบัญชาว่าอยากตาย นอกจากอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครียดมากคือมีลูก 2 คน คนแรกอายุ 3 ปี แต่อีกคนเสียชีวิตหลังคลอดได้ประมาณ 1 ปี เจ้าตัวจึงเสียใจมาก ข้อความสุดท้ายที่ส่งถึงภรรยาคือ "โชคดีนะครับ" "อโหสิกรรมกันนะครับ" สำหรับเปาป้อมเป็นชาว อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เคยเป็นนักมวยมาก่อน จากนั้นเป็นเทรนเนอร์ ครูสอนมวย ก่อนเป็นกรรมการผู้ตัดสินมวยตั้งแต่ปี 2556
อันดับ 5 : ตอกย้ำเจ้าแม่ SOLD OUT ลิซ่า แบล็คพิงค์เต้นดื่มนมถุงหนองโพ เกษตรกรดีใจซอฟต์พาวเวอร์ดังไกลทั่วโลก
หลังจากที่ผ้าไทยได้ขาดตลาดไปแล้ว คราวนี้ถึงคิวของนมถุงหนองโพ เมื่อ ลิซ่า ลลิสา มโนบาล สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป แบล็คพิงค์ (BLACKPINK) จากประเทศเกาหลีใต้ โพสต์ภาพนมปรุงแต่งพาสเจอไรซ์ รสช็อกโกแลต บรรจุถุงตราหนองโพ ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว lalalalisa_m ที่มีผู้ติดตามกว่า 94 ล้านผู้ใช้ พร้อมระบุว่า "วัยเด็กต้องนี่เลย" นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนลิซ่าถ่ายสตอรี่ ระบุว่า "ดื่มนมก่อนนอน" กลายเป็นกระแสบริโภคและทำคอนเทนต์ลงสื่อโซเชียลฯ แฟนคลับบางคนถึงกับหาซื้อมาดื่มตาม สำหรับนมถุงตราหนองโพ ผลิตโดย สหกรณ์โคนมราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์)
นายนิพนธ์ แก้วจีน เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี ยอมรับกระแสลิซ่าในฐานะผู้เลี้ยงโคนมก็ดีใจและมีกำลังใจ เพราะเป็นอาชีพค่อนข้างเหนื่อย แต่ถ้าทำด้วยใจรักจะมีความสุข ถ้าคนนิยมหันมาบริโภคนม เป็นการกระตุ้นให้มีการซื้อขาย มีการขยายตลาดมากขึ้น ซึ่งจากการพูดคุยกับประธานสหกรณ์ฯ ระบุว่าไม่ได้จ้าง แต่ลิซ่าสร้างกระแสนมหนองโพให้เรา ซึ่งเป็นกระแสในทางที่ดี ขณะที่นายกล้าหาญ แก้วจีน ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี ระบุว่า ผลจากกระแสลิซ่าทำให้มียอดสั่งซื้อถึง 3 เท่า ทำผลิตภัณฑ์ขาดตลาด แต่ยืนยันว่ายังมีสินค้าเพียงพอ ทันต่อความต้องการของลูกค้าเสมอ
อันดับ 6 : สาวร้อยเอ็ดช็อกดับคาเตียงคนไข้ คลินิกเสริมความงามย่านรังสิต หลังเข้าใช้บริการแก้จมูก เบื้องต้นสั่งปิด 30 วัน
เหตุสะเทือนใจคนทำศัลยกรรมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รับแจ้งว่า น.ส.สิรินยา เดชรักษา หรือนิว อายุ 25 ปี ชาว อ.โพธิ์ทอง จ.ร้อยเอ็ด เสียชีวิตภายในคลินิกเสริมความงามนิติกาญจน์ หน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี สอบถามแฟนระบุว่า น.ส.สิรินยา ไปทำจมูกที่อื่นมา แล้วจมูกเกิดรั่ว จึงได้ค้นหาร้านมาเจอคลีนิคแห่งนี้ กระทั่งได้มาทำที่เสริมจมูกเก่าออกครั้งหนึ่ง เมื่อแผลหายดีแล้วจึงมาเสริมจมูกใหม่เข้าไป โดยได้ไปส่ง น.ส.สิรินยาเวลาประมาณ 10.00 น. แต่เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.สิรินยาไม่ทักมา จึงมาที่คลีนิค พบว่านอนไม่ได้สติ
สอบถามทางคลินิกได้รับคำตอบว่า น.ส.สิรินยา ดมยาสลบ แล้วอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นผิดปกติ ก่อนหัวใจหยุดเต้น พยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ตรวจสอบพบว่าได้รับอนุญาตสถานพยาบาลถูกต้อง แต่ไม่ได้ขออนุญาตห้องผ่าตัดเล็กและห้องผ่าตัดใหญ่ ส่วนแพทย์ที่ผ่าตัดและวิสัญญีแพทย์ มีใบประกอบวิชาชีพถูกต้อง แต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนที่นี่ และไม่ขออนุญาตโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต จึงได้สั่งปิด 30 วัน และพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่าเสียชีวิตว่าหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
อันดับ 7 : ปิดตำนานร้านดัง สีฟ้าสยามสแควร์ อยู่ใจกลางสยาม 53 ปี เปิดถึง 11 ก.ค.นี้ แต่สาขาใกล้เคียงยังมี
ร้านอาหารที่อยู่คู่กับสยามสแควร์มานานถึง 53 ปี ถึงเวลาอำลา สำหรับร้านอาหารสีฟ้า สาขาสยามสแควร์ ที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2512 หลังร้านสาขาแรกย่านท่าน้ำราชวงศ์หมดสัญญาเช่าพื้นที่ โดยมีสโลแกนว่า "อย่าลืมสีฟ้าเวลาหิว" ด้วยเมนูยอดนิยม ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ บะหมี่ราชวงศ์ บะหมี่แห้งอัศวิน เป็ดย่างหมูแดง ปรากฎว่า ได้ประกาศบนเฟซบุ๊กเพจเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า สีฟ้า สาขาสยามสแควร์ ขอแจ้งปิดบริการ โดยจะเปิดให้บริการถึงวันที่ 11 ก.ค. 66 ลูกค้าสามารถใช้บริการสาขาใกล้เคียงได้ที่ สีฟ้า สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ และ สาขาธนิยะ ทำเอาชาวเน็ตพูดถึงจำนวนมาก
ร้านสีฟ้าก่อตั้งปี 2479 โดยนายเปล่ง รัชไชยบุญ ชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมกับเพื่อนเปิดร้านขายไอศกรีม กาแฟ และผลไม้อยู่ย่านท่าน้ำราชวงศ์ ก่อนจ้างกุ๊กคนจีนมาช่วยคิดค้นสูตรอาหารคาว กลายเป็นร้านอาหารชื่อดังของย่านราชวงศ์ในเวลานั้น ก่อนขยายสาขามายังหลังวังแถวโรงหนังคิงส์ ควีน และสาขาที่ 3 สยามสแควร์ ภายหลังขยายสาขาและปรับโลโก้แบรนด์ใหม่ให้ทันสมัย ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของ นายกร รัชไชยบุญ ทายาทรุ่นที่ 3 สำหรับที่มาของชื่อร้านสีฟ้า มาจากช่วงที่เริ่มมีการปรับปรุงขยายร้านใหม่ที่ท่าน้ำราชวงศ์ มีการทาผนังเป็นสีฟ้าและใช้ไฟนีออนแทนไฟหลอดไส้ จึงถูกลูกค้าเรียกชื่อว่า ร้านสีฟ้า
