เปิดเส้นทางสีกากีผู้การกัมพล ถูกเด้งปมบอกรักผู้ต้องหา เท่าไหร่เขียนมาฟาดค่าเคลียร์คดี

เปิดเส้นทางชีวิตสีกากี พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ที่ถูกเด้งกรณีบอกรักเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “เป้รักผู้การฯ เท่าไร เป้เขียนมา” ก่อนเจอพลเรือนอีก 2 คน ดึงตัวไปพูดคุยก่อนรีดทรัพย์รวมกันหลักร้อยล้าน พบเป็น นรต.45 อยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 และจังหวัดภาคตะวันออกตลอด มาแทนรุ่นน้องที่เด้งออกไปปมเปลี่ยนผู้ต้องหาคดียิงกันที่พูลวิลล่า

วันนี้ (17 มิ.ย.) จากกรณีที่ ตำรวจ สภ.คูคต.จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และพวก ซึ่งเป็นตำรวจชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี) หลังตำรวจชุดดังกล่าวจับกุมเครือข่ายเว็บไซต์การพนัน ได้ผู้ต้องหา 1 ราย แล้วปรากฎว่ามีการเจรจา พล.ต.ต.กัมพล พูดคุยเรื่องคดีความเส้นทางการเงินพัวพันกับครอบครัว ก่อนกล่าวว่า “เป้รักผู้การฯ เท่าไร เป้เขียนมา” ก่อนจะมีบุคคลที่เป็นพลเรือนอีก 2 คน ดึงตัวไปพูดคุย โดยเรียกเงินค่าเคลียร์คดี 120 ล้านบาท ก่อนจะต่อรองเหลือง 65 ล้านบาท

จากนั้นมีการนัดส่งเงิน 3 จุด แล้วยังให้เจ้าของเงินจ่ายอีก 30 ล้านบาท พร้อมกับขอเข้าเป็นหุ้นส่วนเว็บพนันออนไลน์ และยังเรียกเงินจากหุ้นส่วนอีกหลายครั้งรวม 50 ล้านบาท เรื่องนี้ทำให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ให้ควบคุมกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างใกล้ชิด และมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.กัมพล และข้าราชการตำรวจทั้ง 8 นาย มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ขณะที่โลกโซเชียลฯ ต่างฮีอฮากับประโยคที่ว่า “เป้รักผู้การฯ เท่าไร เป้เขียนมา” สะท้อนให้เห็นถึงเสียงวิจารณ์พฤติกรรมนายตำรวจรายนี้

เมื่อค้นหาถึงเส้นทางชีวิตข้าราชการแวดวงสีกากี สำหรับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภากรณ์ นั้น เกิดเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2512 จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 29 และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 45 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) และ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ (ประธานรุ่น นรต.45) รับราชการมาแล้ว 31 ปี และจะเกษียณอายุราชการในปี 2572 เส้นทางรับราชการที่ผ่านมา พบว่าล้วนอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก หลังจากปี 2535 รับตำแหน่งรองสารวัตรประจำกองบังคับการโรงเรียนนายร้อยตำรวจแล้ว ย้ายไปเป็นรองสารวัตรสืบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังจากนั้นปี 2540 ย้ายไปเป็นนายเวร ผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 2 และรับราชการในตำรวจภูธรภาค 2 ยาวนานถึง 15 ปี

จากนั้นในปี 2555 ย้ายไปเป็นผู้กำกับการ สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อยู่มาได้ 3 ปี ในปี 2558 ย้ายไปเป็นผู้กำกับการ สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง ก่อนที่ในปี 2559 ย้ายไปเป็นผู้กำกับการ ฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 2 จากนั้นอีก 3 ปีต่อมา ในปี 2562 ย้ายไปเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด จากนั้นเกือบ 2 ปีย้ายไปเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรีเมื่อปี 2563 กระทั่งผ่านไป 3 ปี รับตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา แทน พล.ต.ต.กิตติธเนศ ธนนันท์ทวีสิน (นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 49) ที่ถูกเด้งออกไปจากเหตุการณ์สลับตัวผู้ต้องหาคดียิงกันที่พูลวิลล่าย่านเมืองพัทยา จ.ชลบุรี สำหรับตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้ชื่อว่าเป็นตำแหน่งเกรดเอในฝันของนายตำรวจทุกคน เพราะในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมีผลประโยชน์มหาศาล

ย้อนกลับไปในวันที่ 27 ม.ค. 2566 พล.ต.ต.กัมพล กล่าวให้โอวาทกับคณะผู้บังคับบัญชา รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, ผู้กำกับการในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ กต.ตร.จังหวัดชลบุรี ในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อเข้ารับตำแหน่ง โดยย้ำให้ดำรงตนยึดมั่นเกียรติยศศักดิ์ศรีหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มีจิตอาสาเสียสละช่วยเหลือบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พี่น้องประชาชน มีความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปฏิบัติภารกิจสนับสนุนการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองตามนโยบายรัฐบาล พร้อมกันนี้จะดูแลสวัสดิการข้าราชการในสังกัดและครอบครัวด้านต่างๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี (27 ม.ค. 2566)