"หมอแล็บแพนด้า" ออกโรงเตือนอีกเสียงเกี่ยวกับ "ว่านจักจั่น" ชี้ถึงตายได้เลย ระบุไม่ใช่ว่าน ไม่มีส่วนไหนเกี่ยวกับพืช
จากกรณีสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับว่านจักจั่นกินแล้วอันตรายอาจถึงแก่ชีวิตได้ เนื่องจากว่านจักจั่น คือตัวอ่อนของจักจั่นที่ถูกราเข้าทำลาย นอกจากความเชื่อเรื่องการเป็นของขลังแล้ว ยังมีการนำมารับประทานอีกด้วย
โดยในประเทศไทยมีรายงานว่าว่านจักจั่นมีความใกล้เคียงกับราชนิด Ophiocordyceps sobolifera กินแล้วคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ชัก กล้ามเนื้อเกร็งกระตุก ดวงตาหมุนวนไปรอบๆ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน อ่อนแรงใจสั่น และเวียนศีรษะ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ก่อนหน้านี้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนเกี่ยวกับการรับประทาน "ว่านจักจั่น" โดยย้ำว่าคือเชื้อราชนิดหนึ่ง มีพิษหากกิน ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ชัก กล้ามเนื้อเกร็งกระตุก ดวงตาหมุนวนไปรอบๆ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน อ่อนแรงใจสั่น และเวียนศีรษะ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ล่าสุดวันนี้ (15 มิ.ย.) เพจ "หมอแล็บแพนด้า" ได้ออกมาโพสต์ข้อความย้ำเกี่ยวกับ "ว่านจักจั่น" ว่าไม่ใช่ว่าน แต่มันคือจักจั่นที่ตายจากการติดเชื้อรา โดยได้ระบุข้อความว่า
"ว่านจักจั่น ไม่ใช่ว่าน ไม่มีส่วนไหนเกี่ยวกับพืชเลยครับ แต่มันคือ "จักจั่นที่ตายจากการติดเชื้อรา"
เวลาที่จักจั่นตัวอ่อนมันขึ้นมาลอกคราบบนดิน จะเป็นช่วงที่มันจะอ่อนแอมาก เชื้อราที่อยู่บริเวณนั้นก็เลยสามารถแทงเส้นใยเข้าไปเติบโตในตัวจักจั่นได้ ด้วยการดูดสารอาหารในตัวจักจั่นเป็นอาหาร จนจักจั่นตาย มองผิวเผินเหมือนจักจั่นงอกมาจากดิน คล้ายๆ ว่าน บางคนก็เอาไปบูชา บางกลุ่มเอาไปต้มน้ำกินเพราะเชื่อว่าเป็นยา ตายได้นะครับ สารพิษจากราบางชนิดทนความร้อนได้สูงมากๆ อย่าเอาไปกิน เพราะรักจึงบอกนาาาา
ว่าแต่ว่า...รับเชื้อราในจักจั่นไว้บูชาซักตัวมั้ยครับ ผมมีให้เช่า ห้าร้อยเรื่องเงียบ! คนกันเอง"