ศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการแสดงจุดยืนปกป้องโรงเรียน วอนนักการเมืองและผู้ใหญ่หยุดใช้เด็กเป็นเครื่องมือ และลากโรงเรียนไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง
วันนี้ (15 มิ.ย.) กรณีที่ น.ส.หยก (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 15 ปี เยาวชนและนักเคลื่อนไหวการเมือง อดีตผู้ต้องหาคดี 112 มีการโต้เถียงกับ รปภ. และปีนรั้วโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ โดยทำสีผมและแต่งชุดไปรเวต เมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) อ้างว่าจะไปเรียนหนังสือกับเพื่อน หลังจากที่เธอโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก อ้างว่าถูกทางโรงเรียนไล่ออก หลังจากที่เธอทำสีผมและแต่งไปรเวตไปเรียน แต่ทางโรงเรียนชี้แจงปฏิเสธว่าไม่ได้ไล่ออก แต่นักเรียนไม่นำผู้ปกครองมามอบตัวนักเรียนให้สมบูรณ์ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบของกระทรวงศึกษาธิการ อีกทั้งไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เช่น ไม่แต่งกายชุดนักเรียน ทำสีผม มาเรียนตามเวลาและรายวิชาตามความพอใจของนักเรียน ไม่เข้าร่วมกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมหน้าเสาธง และกิจกรรมอื่นๆ ถือเป็นการไม่ยอมรับกฎระเบียบและไม่เข้าสู่กระบวนการของโรงเรียน
ล่าสุดได้มีศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการโพสต์ข้อความและภาพพร้อมติดแฮชแท็ก #SAVEเตรียมพัฒน์ เพื่อแสดงจุดยืนปกป้องโรงเรียน และวอนหยุดใช้โรงเรียนเป็นเครื่องมือทางการเมือง ยกตัวอย่างความคิดเห็นที่น่าสนใจบางส่วนดังนี้
(1) "ในฐานะศิษย์เก่า และผู้ปกครองของนักเรียนปัจจุบันของโรงเรียน ขอเรียกร้องให้นักการเมืองหยุดยุ่งเกี่ยว หยุดจองเวรจองกรรมกับสถาบันการศึกษาทุกแห่งครับ อยากเรียนนักการเมืองที่พยายามจะลากเข้าไปเกี่ยวข้องกับอุดมการณ์ของท่านว่า ผู้ปกครองของโรงเรียนไม่เคยรู้สึกสบายใจกับท่าทีของท่านเลย เพราะวิธีการของท่านกำลังทำให้เด็กนักเรียนของโรงเรียนเสี่ยงที่ต้องเจอกับปัญหาสารพัด ทั้งทางด้านความปลอดภัย และความเข้าใจผิดจากสังคม ทั้งๆ ที่โรงเรียน ครู และผู้ปกครอง ไม่ได้เคยดำเนินกิจกรรมอะไรที่มีวัตถุประสงค์เชิงการเมืองเลยแม้แต่น้อย
โรงเรียนควรเป็นสถานที่สำหรับการให้การศึกษา และฝึกอบรมความรู้ ความสามารถ และลักษณะนิสัยที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติในอนาคต ถ้าหากเด็กๆ จะมีความคิดทางการเมืองเป็นของตนเอง อันนั้นเป็นสิทธิเต็มที่ของเขา แต่ควรเป็นความคิดทางการเมืองที่เกิดขึ้นโดยตัวเขาเอง ไม่ใช่โดยการให้ข้อมูลผิดๆ หรือสร้างความเข้าใจผิดจนก่อเป็นมลภาวะทางความคิดแก่เด็กแบบที่ท่านกำลังพยายามทำอยู่
จึงขอความกรุณาเคารพ และเห็นแก่สิทธิของเยาวชน อย่าได้สร้างมลภาวะทางความคิดให้แปดเปื้อนความบริสุทธิ์ของเด็ก และควรหยุดใช้เด็กเป็นเครื่องมือทางการเมืองได้แล้ว
ปล. อันนี้เป็นการขอร้องอย่างสุภาพนะครับ หวังว่าท่านจะอ่านเข้าใจนะ ไอ้ ... #saveเตรียมพัฒน์"
(2) "ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่า ขอเป็นกำลังใจให้คณะครู และผู้บริหารโรงเรียนเตรียมพัฒน์ฯ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าเด็กๆ ควรเรียนรู้ที่จะเคารพกฎ กติกา และมารยาททางสังคมของสถานที่นั้นๆ ถ้าหนูทำตามไม่ได้ และรู้สึกอึดอัด ... ลาออกไปค่ะ
ปล. ขอประณามผู้ใหญ่ หรือนักการเมืองทุกคน ที่พยายามใช้เด็กเป็นเครื่องมือ #saveเตรียมพัฒน์"
(3) "ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่มีเรื่องการเมือง กรณีสาวน้อยคนหนึ่ง มีพฤติกรรมการแสดงออกขัดกับข้อตกลงของโรงเรียน โดยอ้างเสรีภาพและสิทธิส่วนบุคล .. เมื่อไม่ได้ตามที่ต้องการก็มีการแสดงออกที่ก้าวร้าว คุกคาม .. พาดพิงถึงความไม่ยุติธรรมในการตัดสิทธิในการเรียน
สมัยผมอายุเท่ากัน ความคิดในหัวของผมก็ไม่ต่างหรอกครับ ตั้งแต่มัธยม 4-6 ไม่มีวันไหนที่เครื่องแต่งกายถูกระเบียบ 100% (ยกเว้นวันเรียน ร.ด.) เจาะหู ต่อยกับเพื่อน ตีกับรุ่นน้อง เข้าห้องปกครอง บ่อยพอๆ กับเข้าร้านสหกรณ์โรงเรียน และมีส่วนร่วมเกือบทุก events ที่สร้างปัญหาให้โรงเรียน บางครั้งก็เป็นตัวต้นเหตุเองด้วยซ้ำ
พฤติกรรมนอกโรงเรียนยิ่งหนักกว่าแบบทวีคูณ ด้วยสถานที่อาศัยทำให้มีเพื่อนรุ่นเดียวกันเยอะ แต่ละคนก็เกเรระดับต้นๆ ของสถาบันที่ตัวเองอยู่ หรือชักชวนกันมารวมกลุ่มในละแวกบ้าน เหมือนเอา dream team จากหนังเรื่อง 4 Kings มาร่วมเป็นพวกเดียวกัน นับตั้งแต่ สี่แยกพระโขนง ถึง สี่แยกบางนา สามารถรับรองความปลอดภัยและสร้างความไม่ปลอดภัยให้วัยรุ่นแถวนั้นได้อย่างไม่ยาก … เป็นเรื่องที่เพื่อนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ ยกเว้นสมาชิกร่วมเหตุการณ์
ส่วนตัวไม่สนับสนุนให้ชื่นชมพฤติกรรมอันเลวร้ายในสมัยวัยรุ่นของตัวผมเอง ถึงแม้จนบัจจุบันมันก็ไม่เคยเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจ จะมีเว้นแต่มิตรภาพของเพื่อนๆ ที่หลงเหลืออยู่
การแสดงออกเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจครับไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนๆ อาจจะเป็นจุดที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในทางที่ไม่ดี แต่ สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นสำหรับตัวผมเอง คือ “การไม่ได้รับการอภัยในข้อผิดพลาดจากความด้อยวุฒิภาวะ” สิ่งที่ควรสื่อสารก็คือ ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ สังคมจะเป็นผู้ชี้ความเหมาะสม และสุดท้ายสังคมก็ควรพร้อมให้อภัยเพื่อสร้างธรรมาภิบาลที่ถูกเป็นมาตรฐานในสังคม
การตัดสินใจของท่านอาจารย์ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในความเห็นของผมถูกต้องและมีเมตตาธรรมเหมาะสมอย่างที่สุด และเป็นหลักที่ยึดถือมาโดยตลอดตั้งแต่สร้างโรงเรียน
ผมอยากขอร้องเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ร่วมสถาบันทุกท่านช่วยกันส่งเสริมเมตตาธรรมอันเป็นพื้นฐานของโรงเรียนเรา ให้อภัยความผิดพลาดของสาวน้อย และนั่นแหละที่ผมเห็นว่าเป็นการ #saveเตรียมพัฒน์ ที่ควรจะเป็น"
(4) "ในฐานะของรุ่นพี่คนหนึ่งที่ไม่ได้จะดีเด่อะไร พี่เรียนที่โรงเรียนของเราได้ถึงแค่ ม.2 เพราะอาจจะมีความคิดหัวก้าวหน้าแบบน้อง แต่ก็จากมาด้วยความรักและความอาลัย ไม่เอาสีดำๆ เทาๆ ของพี่ ไปแปดเปื้อนสีชมพูที่รักยิ่งของเรา ถึงตอนนี้เวลากลับไปโรงเรียน เจอเพื่อน เจอครูอาจารย์ ก็ยังอิ่มเอมใจเสมอและภาคภูมิใจว่าเราเองเคยเป็นส่วนหนึ่งของส่วนที่เรารักที่สุด ไม่รู้ว่าน้องจะรู้หรือเปล่าว่ามีมนุษย์แอบอ้างเอาสิทธิมนุษยชน สาดสีอื่นมาใส่ในสีชมพูของเรา ด้วยความเป็นคนของพี่ พี่เองคงอยู่เฉยไม่ได้ สุดท้ายนี้พี่ขอให้น้องลดความเป็นมนุษย์ลงมาหน่อย แล้วเพิ่มความเป็นคนให้มากขึ้นมาอีกนิด เพราะอย่างที่เขาว่ากัน มนุษย์นั้นเหี้ยมโหดกว่าคนมากมาย เพราะโลกนี้ มีมนุษย์กินคน #saveเตรียมพัฒน์"
(5) "เสรีภาพ เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องมาพร้อมกับ สิทธิ สิทธิทั้งของตัวเราเอง และของผู้อื่น ในรั้วเตรียมพัฒน์ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ ช่วงหนึ่งของชีวิต บางคนเรียน 5 ปี (สมัยนั้นมีทั้งหลักสูตร 5 ปีจบ / สอบเทียบ ม.6) บางคนเรียน 6 ปี ซึ่งจริงๆ แล้วในเตรียมพัฒน์เป็นสังคมที่ค่อนข้างใหญ่ แต่เราก็รู้จักกันเกือบทั้งรุ่น (เพราะเล่นกีฬา) จนทุกวันนี้ก็ยังภูมิใจในคำว่า ลูกเตรียมพัฒน์ ภูมิใจ พระเกี้ยว สัญลักษณ์ของโรงเรียน เรียนที่นี่มีความสุขสุดๆ เป็นกำลังใจให้ ผอ. ครู และบุคลากร เตรียมพัฒน์ ทุกท่านครับ #saveเตรียมพัฒน์"
(6) "ได้ยินข่าวแล้วตกใจเด็กยุคใหม่ก้าวร้าวกันขนาดนี้เลยเหรอ โรงเรียนเป็นสถานศึกษาและเป็นสังคมหมู่มาก เมื่อเป็นสังคมที่มีผู้คนอยู่เยอะก็ต้องมีกฎของการอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นๆ ถ้าเราต้องการจะอยู่ภายในสังคมนั้นก็จำเป็นจะต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎ ไม่ใช่เราไม่มีสิทธิคิดต่างนะ เราคิดต่างได้เต็มที่ แต่ถ้าสิ่งที่เราคิดและกระทำมันฝ่าฝืนหรือละเมิดกฎของสังคมนั้นๆ ถ้าเราปฏิบัติตามไม่ได้เราก็จำเป็นต้องออกไปอยู่ในสังคมอื่น ไม่ใช่ว่าเราจะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางแล้วให้คนรอบข้างเปลี่ยนตามเรานั่นมันความคิดวิบัติแล้ว และที่สำคัญให้คนเหล่านี้เนี่ยนะมาเป็นแกนนำการเมือง บ้าบอไปละแค่ความคิดพื้นฐานก็ผิดละ การเคารพกฎของโรงเรียนก็เหมือนการถูกฝึกสอนให้เราเคารพกฎหมายเมื่อออกมาในสังคมจริงๆ นั่นแหละ ตอนเป็นเด็กผมก็อยากไว้ผมยาวอยากแต่งไปรเวตเหมือนกันแต่ผมไม่ทำเพราะผมเคารพกฎของโรงเรียน ผมเข้าใจว่าตอนเด็กเราแค่อยากขบถอยากดูเท่แตกต่างจากคนอื่นแค่นั้นแหละ ประสบการณ์น้องยังน้อยโตมาจะเข้าใจการเมืองคือหน้าที่ เราทำได้ตามหน้าที่พลเมือง ต่อให้ใครมาเป็นรัฐบาลเราก็ต้องไปทำงานไปหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเองอยู่ดี อย่าอินไปกับมันมากจะกลายไปเป็นเครื่องมือเขา ขอ save โรงเรียนเก่าตัวเองหน่อย #saveเตรียมพัฒน์"
(7) "ธงพระเกี้ยวชมพูพลิ้วดูงามสง่า
เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
สถาบันการศึกษาเยาวชน
พวกเราเริ่มต้นด้วยการรักเรียน
เป็นงงกับเด็กสมัยนี้ โรงเรียนเป็นชุมชนที่เราไปขออาศัยต่อจากบ้าน ไปขอความรู้ ไปขอความเอ็นดูจากครูบาอาจารย์ ไปแลกเปลี่ยนความรักกับเพื่อน เป็นชุมชนที่ต้องมีกฎระเบียบในการอยู่ร่วมกันของคนหมู่มากเพื่อความสงบเรียบร้อย หากมีคนแหกข้อบังคับโดยอ้างเสรีภาพ แต่ไม่ยอมพูดถึงบทบาท, สถานะ และหน้าที่ของตน โรงเรียนคงวายป่วงไปตั้งแต่รุ่นเรากระมัง เพราะพวกแหกกฎมีมาทุกยุคนั่นแหละ ไม่ใช่ของแปลกใหม่ หรือเก๋เท่อะไร แต่พวกเรายังรู้จักเจียมในสถานะแห่งตน คือเป็นนักเรียน เกเรบ้างไรบ้าง ก็ยังยกมือไหว้ครู นบนอบบูชาพระคุณที่สาม เห็นหัวผู้หลักผู้ใหญ่ ขอโทษ, สำนึก และเสียใจเมื่อทำผิดพลั้งหรือพลาดไป ครูบาอาจารย์ก็จะอภัยให้ด้วยรักและเมตตาเสมอไม่ถอดใจ
แล้วน้องเป็นไรมากปะ ต่อมสำนึกหดหายไปไหนหมด สร้างความเดือดร้อนให้ทั้งตัวเองและโรงเรียนของเรา โดยเลือกเล่าความจริงเท่าที่อยาก ไม่มีผู้ปกครองมามอบตัวเข้าเรียน ก็ตะโกนว่าถูกไล่ออก ทั้งๆ ที่ได้รับโอกาสมากกว่าเพื่อนคนอื่น เลื่อนวันมอบตัวให้เป็นชาติ เพราะถูกกักตัวอยู่จากการทำผิดกฎหมาย (นี่ก็ไม่มีผู้ปกครองไปประกันตัว) สร้างเรื่องเป็นข่าวรายวัน เช่น ความไม่เท่าเทียมในการใช้ลิฟต์ ที่อายุขัยมันยาวพอๆ กับตัวตึก ขนาดมันก็แค่ 4 คนเบียด, เสรีภาพในการย้อมสีผม ใส่เสื้อส้ม เสื้อคลุมพรรคก้าว... มาโรงเรียน เคารพกฎไม่เป็นจะอยู่ในสังคมยังไงคะ น่าหยุมหัวจริง #saveเตรียมพัฒน์"
(8) "น้องครับ การที่สถาบันหรือองค์กรในแต่ละที่เขามีกฎ ระเบียบ ซึ่งสืบทอดกันมายาวนาน..สิ่งหนึ่งของการมีกฎเหล่านี้คือการให้น้องรู้จักคำว่า " Respect" ครับ..มันเป็นการทำให้คนอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างคนที่มีสติ มีสามัญสำนึก ซึ่งทำให้เราแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานครับ
การเคารพทั้งตัวเองและผู้อื่นโดยเฉพาะถ้าเราอยากเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนหรือองค์กรนั้นๆ
สถาบันการศึกษาแห่งนี้ได้สร้างคนที่มีคุณภาพอย่างมากมาย และคนเหล่านั้นก็ผ่านการอบรมและเคารพในกฎระเบียบมาด้วยกันทั้งสิ้น
มันเป็นการเรียนรู้การใช้ชีวิตว่ามันไม่มีอะไรถูกใจเราเสมอไป...Sometimes you need to do what you don't like in order to able to do what you like in the future...การฝึกความอดทนและรู้จักการเคารพต่อสถาบัน และผู้อื่นเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้น้องเป็นผู้ใหญ่และเป็นคนที่มีคุณภาพ...เป็นปัญญาชน
ถ้าน้องไม่เคารพและอยากทำตามใจไม่ว่าด้วยเหตุผลใดที่ขัดต่อกฎ ระเบียบของสถาบัน..น้องก็ควรไปเลือกอยู่ในที่ที่เขาเป็นแบบน้องและยอมรับตัวตนแบบเดียวกัน ซึ่งพี่บอกได้เลยว่าไม่ใช่สถาบันเตรียมพัฒน์ของพี่..น้องไม่มีคุณสมบัติทั้งปวง ทั้งแนวคิด การแสดงออก และทัศนคติ..เชิญเนรเทศตัวเองออกไปอยู่ในชุมชนหรือสถาบันที่มีแนวคิดแบบน้อง...ซึ่งก็จะไม่มีใครจากสถาบันพี่ไปวุ่นวาย..หรือตัดสินน้อง..เรามาจากดาวคนละดวง..และพี่ก็ไม่ได้บอกว่าดาวไหนดีกว่า..
หยุดจาบจ้วงสถาบันอันเป็นที่เคารพของพี่และใครหลายๆ คน...
ขอย้ำอีกครั้งนะครับ...,," Respect" เป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันในทุกสังคม
Give me a break you little piece of shit!
#เด็กเวร
#saveเตรียมพัฒน์"