สสว.แถลงข่าว “งานพัฒนาสิทธิประโยชน์และผลักดันให้เกิดขึ้นจริงเพื่อการประกอบการ” เดินหน้าบูรณาการความร่วมมือเครือข่ายภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง ผลักดันสิทธิประโยชน์ผู้ประกอบการ เพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน ขยายช่องทางการตลาด และเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน
วันนี้ (31 พ.ค. 2566) นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นประธานในงานแถลงข่าว “งานพัฒนาสิทธิประโยชน์และผลักดันให้เกิดขึ้นจริงเพื่อการประกอบการ” โดยมี 21 ผู้แทนหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ ห้อง Hill Crest ชั้น 5 โรงแรมเดอะควอเตอร์ ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
นายวีระพงศ์กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. มีพันธกิจในการบูรณาการ และผลักดันการส่งเสริม MSME ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ MSME สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล โดยหนึ่งในโครงการสำคัญซึ่ง สสว.ได้ดำเนินการต่อเนื่อง และสอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริม MSME ของรัฐบาลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ MSME ในมิติต่างๆ คือ “งานพัฒนาสิทธิประโยชน์และผลักดันให้เกิดขึ้นจริงเพื่อการประกอบการ” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบการให้แก่ผู้ประกอบการ ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการประกอบธุรกิจ และเชื่อมโยงข้อมูลสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบการจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงพัฒนาการให้บริการผู้ประกอบการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “SME Privilege Club คลับพิเศษสำหรับ SME” โดยมุ่งเน้นใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้านการเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน ด้านการขยายช่องทางการตลาด และด้านการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน ซึ่งถือเป็นกลไกหนึ่งในการส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจยุคใหม่ รวมถึงเมื่อผู้ประกอบการเข้ามาใช้สิทธิประโยชน์ ทำให้ สสว.รับทราบถึงข้อมูลและความต้องการของผู้ประกอบการที่เข้ามาสู่ระบบการส่งเสริมเพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการต่อไป
ผอ.สสว.กล่าวต่อว่า ในปีนี้ สสว.ได้เดินหน้างานพัฒนาสิทธิประโยชน์ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU กับหน่วยงานพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเข้ารับบริการกับ สสว.ได้รับสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายครอบคลุมทั้ง 3 ด้านหลัก ได้แก่ การเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน เช่น มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด บริษัท คลาวดี เทเลคอม จำกัด และบริษัท ออฟฟิศเมท (ไทย) จำกัด
การขยายช่องทางการตลาด เช่น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) Bank of China (Thai) Public Company Limited สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด การเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน อาทิ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โดยกิจกรรมของงานพัฒนาสิทธิประโยชน์ในปีนี้จะมีทั้ง การจัดทำแคมเปญจำหน่ายสินค้าออนไลน์ การจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า และกิจกรรมอื่นๆ ที่จะช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ สสว.ยังร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สถาบันอนุญาโตตุลาการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.กรุงเทพ) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) ในการพัฒนาสิทธิประโยชน์ร่วมกันในด้านอื่นๆ ซึ่งจะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรับทราบผ่านช่องทางต่างๆ ของ สสว.ในลำดับถัดไป
“สสว.ยังคงเดินหน้าเพื่อสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร และร่วมกันใช้ศักยภาพความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ในการสนับสนุน ส่งเสริม ผู้ประกอบการทั้ง 3 ด้าน โดยมุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาอุปสรรคให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งหนุนเสริมให้เกิดการพัฒนาให้ครบทุกด้าน โดยถึงขณะนี้มีผู้ประกอบการได้รับการสนับสนุนด้านการเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน 774 ราย ด้านการขยายช่องทางการตลาด 4,675 ราย การเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน 38 ราย รวมทั้งสิ้น 5,487 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วกว่า 686.49 ล้านบาท จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจลงทะเบียนเข้ารับบริการกับ สสว.ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ www.sme.go.th และแอปพลิเคชัน SME CONNEXT โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังสามารถติดตามข่าวสารและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อเดินหน้าเสริมสร้างศักยภาพการประกอบธุรกิจยุคใหม่ เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเข้มแข็ง และเติบโต ได้อย่างยั่งยืน โดย สสว.จะทำหน้าที่ ‘เคียงข้าง SME คู่คิดที่ดีผู้ประกอบการไทย’ ตลอดไป” ผู้อำนวยการ สสว.กล่าว