"หมอเอก" ส่งต่องานบุหรี่ไฟฟ้า หวังรัฐบาลใหม่นำมาควบคุมให้ถูกกฎหมายตามนโยบายที่หลายพรรคประกาศไว้กับประชาชน พร้อมยกงานวิจัยความน่าเชื่อถือสูงจากสหรัฐฯ ช่วยประกอบการกำหนดนโยบาย พร้อมย้ำหากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายจะช่วยควบคุมการเข้าถึงของเยาวชนได้ดีกว่าการแบน
นายแพทย์ เอกภพ เพียรพิเศษ หรือหมอเอก อดีต ส.ส.จังหวัดเชียงราย เขต 1 ได้ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับประเด็นนโยบายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมแนบรายงานตีพิมพ์ในวารสาร The American Journal of Medicine ว่า “ส่งงานต่อเรื่อง #บุหรี่ไฟฟ้า ให้นายกรัฐมนตรีใหม่ รัฐมนตรีสาธารณสุขใหม่ และสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ มีรายงานเรื่องผลของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่มวนได้ดีกว่าการใช้นิโคตินทดแทนแบบดั้งเดิมหรือการใช้การแนะนำปกติ ซึ่งเป็นการตีพิมพ์ในวารสารอย่าง The American Journal of Medicine ที่มีระดับความน่าเชื่อถือสูง และรายงานศึกษาฉบับนี้เป็นการศึกษาแบบที่เรียกว่า Systematic review คือการรวบรวมเอางานวิจัยจากหลายงานวิจัยมารวมวิเคราะห์ผล และรายงานนี้ยังเป็นการเลือกเอาเฉพาะรูปแบบงานวิจัยที่มีความน่าเชื่อถือของผลการวิจัยสูง คือ Meta-analysis และ RCTs มาใช้ ทำให้ผลของรายงานฉบับนี้มีความน่าเชื่อถือสูงมากๆ นำไปใช้ประกอบนโยบายควบคุมยาสูบได้”
โดยหมอเอกได้ระบุว่า การทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายนั้นจะช่วยให้ควบคุมการเข้าถึงของเยาวชนได้ดีกว่า และข้อมูลจากสหรัฐอเมริกายังระบุอีกด้วยว่าปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่นมีสัดส่วนของปัญหาที่เทียบไม่ได้เลยกับการที่มีผู้สูบบุหรี่ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่า ดังนั้นการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่จะช่วยลดปัญหาสาธารณสุขในภาพรวมมากกว่า
ก่อนหน้านี้หมอเอก ซึ่งเป็นโฆษกคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพและติดตามการบังคับใช้กฎหมายด้านการสาธารณสุข คนที่หนึ่ง ได้มีส่วนเริ่มต้นการศึกษาและจัดทำรายงานของคณะอนุกรรมาธิการสาธารณสุขในประเด็นการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า และส่งรายงานเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องสำเร็จเมื่อปีก่อน ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ระบุว่า “ข้อมูลการศึกษาของอนุกรรมาธิการที่ผมกับคณะกรรมาธิการได้ทำเสร็จ อยู่ในระบบรายงานการศึกษาโดยกรรมาธิการของรัฐสภาแล้ว รวมถึงได้ส่งรายงานฉบับเดียวกันนี้ไปถึงประธานคณะกรรมการควบคุมยาสูบแห่งชาติ ซึ่งก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อย หวังว่าจะมีการหยิบประเด็นการควบคุมการบริโภคยาสูบที่มีปัญหา ใช้งบประมาณปีละกว่า 300-400 ล้านบาท แต่ไม่ประสบความสำเร็จลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ได้ตามตัวชี้วัดมาแล้วกว่า 20 ปี มาทบทวนตามข้อมูลวิชาการอย่างรอบด้านด้วยครับ ผมไม่มีโอกาสได้ติดตามต่อด้วยตัวเอง ก็ฝากงานต่อด้วยนะครับ”
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายนั้นกำลังได้รับความสนใจจากประชาชน เนื่องจากหลายพรรคการเมือง เช่น พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย ได้หยิบยกขึ้นมาพูดถึงในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง โดยต่างก็สนับสนุนให้นำมาควบคุมให้ถูกกฎหมาย เพื่อช่วยสร้างความชัดเจนในการยังคับใช้กฎหมาย ให้ความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค ควบคุมมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน รวมไปถึงการเปลี่ยนส่วยเป็นรายได้ภาษีให้ภาครัฐอีกด้วย