รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com
(สรุปข่าวประจำวันที่ 27 ก.พ. - 5 มี.ค. 2566)
อันดับ 1 : ดีแทคที่แท้ทรู ควบรวมกิจการสำเร็จ รวมฐานลูกค้า 55 ล้านเลขหมายโรมมิ่งระหว่างกัน ยืนยันแพคเกจไม่ขึ้นราคา
ในที่สุดการควบรวมกิจการระหว่างทรู (true) กับดีแทค (dtac) ได้เสร็จสมบูรณ์ ภายใต้บริษัทจดทะเบียนชื่อใหม่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้มีฐานลูกค้ารวม 55 ล้านเลขหมาย เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 5G ครอบคลุมประชากรทั้งประเทศ 98% ในปี 2026 มูลค่าบริษัทสูงถึง 294,000 ล้านบาท และพนักงานรวม 20,000 คน อย่างไรก็ตาม การให้บริการและการทำการตลาดยังคงต้องแยกแบรนด์กันระหว่างดีแทคกับทรู เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการกำกับดูแลของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสิ่งที่ผู้บริโภคที่ใช้งานเครือข่ายทั้งทรูมูฟ เอช และดีแทค จะได้รับทันที คือการได้ใช้งานเครือข่ายที่ดีขึ้น โดยโทรศัพท์มือถือของลูกค้าทรู และดีแทคจะมีสัญลักษณ์ ‘dtac-true’ หรือ ‘true-dtac’ ในการโรมมิ่งภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ให้สามารถดูแลลูกค้ามากกว่า 55 ล้านคน ยืนยันว่า หลังจากนี้ทั้ง 2 แบรนด์จะไม่มีการปรับขึ้นราคา และได้สิทธิประโยชน์ในการใช้งานเพิ่มเติมจากการรวมธุรกิจทันที นอกจากนี้ ทรูจะทยอยนำเสนอสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม รวมถึงสิทธิพิเศษของ True ID และ dtac reward ด้วย
อันดับ 2 : โอละพ่อน้องต่อหายตัว แม่นิ่มใจยักษ์ทิ้งลงแม่น้ำ ขอโทษที่โกหกจนวุ่นวาย ผ่านไป 1 เดือนค้นหาร่างยังมืดมน
สะเทือนขวัญคนไทย ต่อการหายตัวไปของน้องต่อ วัย 8 เดือน หายออกจากบ้านที่ ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม เมื่อเช้ามืดวันที่ 5 ก.พ. ตำรวจและหน่วยกู้ภัยช่วยกันออกค้นหาแต่ก็ไร้วี่แวว ผ่านไป 22 วัน พบว่าวันที่ 27 ก.พ. น.ส.นิ่ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แม่ของเด็ก ยอมปริปากกับชุดคลี่คลายคดีว่า เป็นคนนำลูกไปทิ้งลงแม่น้ำท่าจีน ห่างจากบ้านพัก 100-200 เมตร อ้างว่าทำลูกตกพื้นขณะอาบน้ำ ทำให้เด็กมีอาการชักและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงนำลูกไปทิ้งในน้ำ พนักงานสอบสวน สภ.บางหลวงตั้งข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และแจ้งความเท็จแก่พนักงาน
ต่อมาตำรวจได้นำตัว น.ส.นิ่ม ไปฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐม ก่อนได้รับการประกันตัวในวงเงิน 9,000 บาท กระทั่งวันที่ 28 ก.พ. น.ส.นิ่มและบิดาแถลงข่าว ขอโทษนักข่าวและตำรวจที่ทำให้วุ่นวาย ขอร้องว่าจากนี้ให้ไปถามตำรวจ อย่ามาวุ่นวายกับครอบครัวนิ่ม อยากมีความเป็นส่วนตัว ยืนยันว่านำน้องต่อโยนไว้ที่แม่น้ำข้างกอไผ่ ที่ทำเพราะกลัวครอบครัวรู้แล้วจะต่อว่า ตอนนี้อยากได้ร่างน้องต่อกลับมาทำบุญ อยากขอโทษที่ทำไปโดยที่ไม่ได้คิด อยากเริ่มชีวิตใหม่ อยากขอโอกาสกับสังคม ถือเป็นบทเรียนจากสิ่งที่โกหก เรื่องนี้ทำคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยวข้อง หากนายพุทธ สามีรู้ความจริงคงเสียใจ
อนึ่ง ถึงขณะนี้ยังไม่พบร่างของน้องต่อ หน่วยกู้ภัยคาดว่าหากนิ่มนำลูกมาทิ้งจริง อาจถูกซัดไปตามกระแสน้ำ หรืออาจถูกสัตว์น้ำหรือตัวเงินตัวทองแทะกินเป็นอาหารก็เป็นได้ เนื่องจากย่านดังกล่าวมีตัวเงินตัวทองอาศัยชุกชุม
อันดับ 3 : แซนฟ้องกลับแม๊แตงโม 40 ล้าน ซัดแจกข่าวปลอมหน้าศาล ปอ-โรเบิร์ตสารภาพหมด อีก 4 คนฟ้องร่วมกันประมาท
ผ่านไป 1 ปีสำหรับการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ศาลจังหวัดนนทบุรีนัดสอบถามคู่ความ ก่อนนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในเดือน ส.ค. ปรากฎว่า นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ขอเปลี่ยนแปลงคำให้การในชั้นศาล เป็นรับสารภาพทุกข้อหา ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 10 พ.ค. ส่วนจำเลยอีก 4 คน ที่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลให้แยกสำนวนสั่งฟ้องเป็นคดีใหม่ ในความผิดฐานร่วมกันประมาท โดยมีนางพนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาแตงโม เป็นโจทก์ร่วม โดยจะรับสำนวนวันที่ 17 มี.ค. และนัดตรวจพยานหลักฐาน 28 เม.ย.
ด้านนางพนิดา นำหลักฐานภาพจากกล้องหน้ารถยนต์ของแตงโมมาให้ศาล ส่วนนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน 1 ในจำเลยคดี เตรียมฟ้องกลับแม่แตงโมกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และแม่ได้ฟ้องแซนในข้อหาฆาตกรรม มีลายเซ็นแม่แตงโมในเอกสาร ต้องการฟ้องกลับและเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 40.8 ล้านบาท ภายหลังแซนชี้แจงว่าประกาศฟ้องนางพนิดาและทีมทนายความ ในข้อหาหมิ่นประมาท อ้างว่านางพนิดาแจกข่าวปลอมทั้งหมด 3 แผ่นให้กับสื่อที่หน้าศาล ซึ่งมีเนื้อหาทำให้ตนเสื่อมเสีย ยืนยันเป็นผู้โดยสาร ไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ อย่าใช้วิกฤตเป็นโอกาส ทำแบบนี้เข้าข่ายหมิ่นประมาท
อันดับ 4 : ช็อก! ฌาน อารีย์กุล นักกีฬาโบว์ลิ่งเยาวชนทีมชาติ น้องชายเฌอปราง BNK48 ตกจากคอนโดมิเนียมเสียชีวิต
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวอารีย์กุล ต้องสูญเสียนักกีฬาโบว์ลิ่งเยาวชนทีมชาติ และน้องชายไอดอลสาวชื่อดัง เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 1 มี.ค. นายฌาน อารีย์กุล หรืออาร์ต อายุ 19 ปี น้องชาย น.ส.เฌอปราง อารีย์กุล หรือเฌอปราง ผู้จัดการวงเกิร์ลกรุ๊ปบีเอ็นเคโฟร์ตี้เอต (BNK48) ตกลงมาจากชั้น 27 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้า มายังลานจอดรถชั้น 5 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส กรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ เสียชีวิต พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 ระบุว่า ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากกล้องบันทึกภาพไว้ชัดเจน สาเหตุคร่าวๆ จะมาจากปัญหาส่วนตัว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เฌอปรางตัดสินใจยกเลิกงานอีเวนต์ทันที พร้อมเคลื่อนไหวผ่านไอจี โดยมีแฟนคลับให้กำลังใจจำนวนมาก ต่อมามีประกาศจากบริษัทต้นสังกัดเฌอปราง ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง งดนำเสนอ เผยแพร่ หรือส่งต่อภาพ วิดีโอ และสื่อที่เกี่ยวข้องกับน้องชาย เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัวอารีย์กุล สำหรับศพของนายฌาน มีพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดราษฎร์บำรุง ซอยเพชรเกษม 69 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยมีเพื่อนจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ปี 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และเพื่อนจากสมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทยมาร่วมงานจำนวนมาก
อันดับ 5 : ศาลรัฐธรรมนูญจุดเปลี่ยนสนามการเมือง เบรกศักดิ์สยามปฏิบัติหน้าที่ปมหุ้น ส่วน กกต.รื้อเขตเลือกตั้งใหม่หมด
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และแกนนำพรรคภูมิใจไทย หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย กรณีที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน 54 คน ยื่นคำร้องผ่านประธานสภาฯ ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีการถือหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น พร้อมกับให้ผู้ถูกร้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ด้านนายศักดิ์สยาม ระบุว่า รับทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ หยุดปฏิบัติภารกิจและเตรียมคำชี้แจงไว้เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าถอนหุ้นจากบริษัทดังกล่าวก่อนเป็นรัฐมนตรีแล้ว
วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (1) ที่กําหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง นั้น คําว่า “ราษฎร” ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย ส่งผลให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องคำนวณจำนวน ส.ส. แต่ละจังหวัดและแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ พบว่าจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ตาก และสมุทรสาคร มีจำนวน ส.ส. ลดลง 1 คน ส่วนนครศรีธรรมราช ปัตตานี ลพบุรี และอุดรธานี มีจำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้น 1 คน
อันดับ 6 : สิ้นดีเจวิว ครีเอเตอร์ดังวลีฮิต อะฮิฮิฮิ-ไปไปไป๊ อุบัติเหตุทางรถยนต์ก่อนหมดสติ ชันสูตรพบพังผืดยึดลำไส้ฉีกขาด
สะเทือนใจโลกโซเชียลฯ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ผู้จัดการของดีเจวิว หรือ ด.ช.ธัญยธรณ์ โพธิ์มณี อายุ 14 ปี ครีเอเตอร์ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ จากวลีเด็ด อะฮิฮิฮิ หรือ ไปไปไป๊ ระบุว่า ดีเจวิวเกิดอุบัติเหตุ หมดสติขณะนำส่งโรงพยาบาล อยู่ในความดูเเลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ ก่อนที่จะโพสต์ข้อความต่อมาว่า เวลา 01.58 น. น้องได้จากเราไป อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของดีเจวิวกล่าวว่า ดีเจวิวประสบอุบัติเหตุขี่จักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ได้รับบาดเจ็บแขนขวาผิดรูป แพทย์ตรวจอาการแล้วจ่ายยากลับบ้าน ต่อมาวันที่ 26 ก.พ. มีอาการปวดท้อง แพทย์ตรวจอาการแล้วจ่ายยากลับบ้านเหมือนเดิม
กระทั่งวันที่ 27 ก.พ. ดีเจวิวอาเจียนเป็นเลือด มาถึงโรงพยาบาลก็หมดสติ จึงได้ปั๊มหัวใจกลับมามีชีพจร แล้วนำตัวเข้าห้องไอซียู ก่อนที่จะเสียชีวิต ครอบครัวติดใจสาเหตุการตาย จึงอยากให้มีการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ต่อมาสถาบันนิติเวชเปิดเผยผลชันสูตร สาเหตุเกิดจากพังผืดที่ยึดลำไส้ มีการฉีกขาด ส่งผลทำให้ลำไส้ขาดเลือด ลำไส้ทะลุแล้วมีเลือดออกในช่องท้อง ขณะที่โรงพยาบาลอ่างทองเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะเร่งดำเนินการชดเชยตามระเบียบมาตรา 41 สปสช. ส่วนศพดีเจวิวได้สวดพระอภิธรรมศพที่บ้าน ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจที่เมรุวัดลาดเค้า อ.ป่าโมก เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา
อันดับ 7 : ไวรัลลวงโลกโซเชียลมโน ลูกชิ้นตัวเหี้ย-หนังตัวเหี้ยกรอบ ตำรวจลั่นไม่มีอยู่จริง พ่อค้าแค่ชำแหละส่งร้านอาหารป่า
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. มีเฟซบุ๊กเพจสายดาร์คแห่งหนึ่ง โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า รวบพ่อค้าตัวเงินตัวทองรายใหญ่ค้าส่งชำแหละเนื้อส่งขายแปรรูปเพื่อนำไปเป็นอาหาร ทำเป็นลูกชิ้นปลาเนื้อขาวใสไร้ความคาว ส่วนหนังเกรงว่าน่าจะนำไปตากแห้งทำเป็นหนังปลาทอดกรอบ โดยชำแหละส่งไปขายทั่วประเทศ ทำแบบนี้มานานแล้ว อู่ทอง สุพรรณบุรี ภาพดังกล่าวถูกแชร์และแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง บางคนถึงกับทำไวรัลเปรียบเทียบระหว่างตัวเหี้ยกับหนังปลากรอบก็มี แน่นอนว่าย่อมกระทบต่อพ่อค้าลูกชิ้น พ่อค้าหนังปลากรอบได้รับผลกระทบไปบ้าง เพราะคนที่ทราบข่าวส่วนหนึ่งไม่กล้ากินก็มี
ร้อนถึงตำรวจสอบสวนกลาง ต้องออกมายืนยันว่า บุกทลายโรงชำแหละส่งร้านอาหารป่า ไม่ใช่โรงงานผลิตลูกชิ้น ส่วนภาพที่เพจสายดาร์คนำมาเผยแพร่ เป็นผลงานการจับกุมของตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาลักลอบซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ผ่านมา จากการสอบถามผู้ต้องหาและจากการสืบสวน ยืนยันว่าเตรียมนำไปขายต่อที่ตลาดชายแดนภาคตะวันออก เพื่อนำไปประกอบเป็นอาหารป่าขายแก่ผู้ชื่นชอบเท่านั้น ไม่ได้ทำลูกชิ้นหรือหนังปลากรอบตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด