สรุปลูกค้าดีแทค-ทรู จะเตรียมตัวยังไง หลังควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์

สรุปให้อ่านพอสังเขป หลังดีแทคและทรูควบรวมกิจการ ลูกค้าดีแทคขณะนี้ไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ด สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเพราะจะเปิดบริการโรมมิ่งระหว่างกัน ลูกค้าจดทะเบียนในนามค่ายเดิมไม่มีเปลี่ยน แพกเกจรายเดือน ทั้งอินเทอร์เน็ตและการโทร.ยังใช้ได้เหมือนเดิม และสิทธิพิเศษยังเหมือนเดิม

อ่านประกอบ (1) : True-dtac เริ่มโรมมิ่ง ลูกค้า 2 ค่ายได้เน็ตเร็วขึ้น-ครอบคลุมขึ้นอ่านประกอบ (2) : เปิด 7 กลยุทธ์บริษัทใหม่ ‘ทรู คอร์ปอเรชั่น’ กับแนวคิดชีวิตดีกว่า เมื่อมีกันและกัน  
วันนี้ (2 มี.ค.) การควบรวมกิจการระหว่างทรู (true) กับดีแทค (dtac) ได้เสร็จสมบูรณ์ ภายใต้บริษัทจดทะเบียนชื่อใหม่ในนาม "บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)" ซึ่งจะทำให้มีลูกค้ารวม 55 ล้านเลขหมาย เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 5G ครอบคลุมประชากรทั้งประเทศ 98% ในปี 2026 มูลค่าบริษัทสูงถึง 294 พันล้านบาท และพนักงานรวม 20,000 คน

อย่างไรก็ตาม การให้บริการและการทำการตลาดยังคงต้องแยกแบรนด์กันระหว่างดีแทคกับทรู เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการกำกับดูแลของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) วันนี้มาสรุปจำแนกสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้กับลูกค้าทั้ง 2 เครือข่าย พอสังเขปดังนี้


1. ลูกค้าดีแทคยังไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ด สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง เพราะหลังควบรวมกิจการจะมีการเปิดบริการข้ามโครงข่าย หรือโรมมิ่ง (Roaming) เมื่อเสาสัญญาณ (Cell Site) ตรงไหนใกล้ที่สุด สัญญาณดีที่สุดที่มือถือรุ่นนั้นๆ รองรับ ก็จะจับสัญญาณจากเสานั้น เช่น หากลูกค้าดีแทคเดินทางไปในพื้นที่ใกล้เสาส่งสัญญาณทรู สัญลักษณ์หน้าจอของลูกค้าดีแทคจะเป็น dtac-true

ในทางกลับกัน ลูกค้าทรูหากเดินทางไปในพื้นที่ใกล้เสาส่งสัญญาณดีแทค สัญลักษณ์หน้าจอของลูกค้าทรูจะเป็น true-dtac ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของ กสทช. ที่ต้องแสดงชื่ออีกโครงข่ายที่กำลังข้ามมาใช้บริการร่วม จึงปรากฏชื่อทั้งสองโครงข่ายบนหน้าจอสกรีน

อย่างไรก็ตาม หากมือถือจับสัญญาณจากเสาดีแทคเดิม สัญลักษณ์หน้าจอของลูกค้าดีแทคจะยังคงเป็น dtac หรือ dtac-T (มาจากคำว่า ดีแทคเทอร์โบ ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ 2300 MHz) ส่วนลูกค้าทรู หากมือถือจับสัญญาณจากเสาทรู สัญลักษณ์หน้าจอของลูกค้าทรูจะเป็น TRUE-H เหมือนเดิม

2. ลูกค้าจดทะเบียนหรือลงทะเบียนซิมการ์ด ค่ายดีแทค ยังเป็นในนาม บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (DTN) เหมือนเดิม ส่วนลูกค้าค่ายทรู ยังเป็นในนาม บริษัท ทรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เหมือนเดิม เพราะจะยึดบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามใบอนุญาตจาก กสทช.

3. แพกเกจรายเดือน ทั้งอินเทอร์เน็ตและการโทร.ยังใช้ได้เหมือนเดิม ส่วนซิมการ์ดแบบเติมเงิน แพกเกจและอายุการใช้งานยังเหมือนเดิม

ส่วนข้อสงสัยที่ว่า การรวมธุรกิจครั้งนี้จะส่งผลให้ค่าบริการแพงขึ้นหรือไม่? บริษัทใหม่ระบุว่า ลูกค้ายังคงสามารถใช้บริการแพกเกจราคาเดิมที่เลือกใช้ รวมทั้งมีสิทธิในการเลือกใช้แพกเกจที่ลูกค้าเห็นว่าคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ลูกค้าทรูและดีแทคยังสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการในราคาที่คุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายมากขึ้น


4. สิทธิพิเศษยังเหมือนเดิม อาทิ สำหรับลูกค้าดีแทค dtac Rewards สิทธิประโยชน์ยังคงเดิม จำนวน Coins ที่ได้จากการชำระค่าบริการรายเดือน หรือซื้อแพกเกจเสริมผ่าน dtac app ไม่หายไป สามารถใช้แลกสิทธิประโยชน์ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.ของทุกปี และสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น จากสินค้าและบริการที่ทรูมีอยู่

สำหรับลูกค้าทรู TrueYou และ TrueSphere นอกเหนือจากสิทธิพิเศษที่ได้รับจากบริษัทในเครือทรู ลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากพันธมิตรของดีแทคอีกด้วย

และเพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้า บริษัทใหม่ได้จัดเตรียม Better Together Gifts ได้แก่ ดูฟรี บอล หนัง และคอนเทนต์ระดับโลก นาน 30 วัน ผ่านแอปฯ ทรูไอดี, เน็ตฟรี 10GB นาน 7 วัน ทั้งเติมเงิน และรายเดือน และดื่มฟรี 1 ล้านแก้ว เลือกรับฟรี All Cafe, KOI The, DAKASI วันที่ 10 และ 24 มี.ค. อ่านรายละเอียดได้ที่ https://www.true.th/bettertogether/privilege

5. ช่องทางติดต่อลูกค้ายังเหมือนเดิม หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ลูกค้าแต่ละค่ายสามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์ของค่ายนั้นๆ ได้แก่ ดีแทค ติดต่อ dtac Call Center โทร. 1678 หรือศูนย์บริการดีแทคใกล้บ้านทุกสาขา และ https://www.dtac.co.th ส่วนทรู ติดต่อ True Call Center โทร. 1242 หรือศูนย์บริการทรูใกล้บ้านทุกสาขา และ https://www.true.th

อนึ่ง หากต้องการร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์คอลเซ็นเตอร์ กสทช. หมายเลข 1200 ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://serviceportal.nbtc.go.th