xs
xsm
sm
md
lg

ค่าแรงขั้นต่ำความฝันของแรงงานไทยบนนโยบายหาเสียง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ค่าแรงขั้นต่ำ” ความฝันของแรงงานไทยบนนโยบายหาเสียง ทำได้จริงหรือแค่ขายฝัน? ด้านเอกชนชี้ทำได้แต่ต้องดูเศรษฐกิจไทยและความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนและของประเทศด้วยว่าทำอะไรได้บ้าง

น.อ.นพ.วิทยา จักรเพ็ชร ประธานรุ่นผู้อบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับกลางด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รุ่นที่ 11 หรือ บสก. รุ่นที่ 11 เปิดเผยถึงสถานการณ์แรงงานไทยในปัจจุบันว่า แรงงานในระบบได้รับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศในอัตรา 328-354 บาทต่อวันซึ่งมีการบังคับใช้มาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 ประกอบกับในช่วงเวลานี้ซึ่งเป็นช่วงใกล้การเลือกตั้งที่จะมีในช่วงเดือน พ.ค. 66 ดังนั้นจะเห็นว่าหลายพรรคการเมืองเริ่มประกาศชูนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในระดับที่สูงขึ้น จนทำให้เกิดการถกเถียงกันในสังคมว่าค่าตอบแทนแรงงานขั้นต่ำในระดับที่เหมาะสมควรจะเท่าไหร่กับการดำรงชีวิตในปัจจุบัน และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละครั้งจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง โดยการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละครั้งจะมีทั้งกลุ่มผู้ได้ประโยชน์และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ

“กลุ่มแรงงานและระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากแรงงานจะมีกำลังซื้อในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจคึกคักขึ้น ขณะที่ผู้ได้รับผลกระทบ คือ ผู้ประกอบการ และโรงงานที่ต้องเพิ่มต้นทุนด้านการผลิตในภาคแรงงาน รวมถึงยังมีการตั้งคำถามว่า เมื่อต้นทุนด้านค่าแรงงานแพงขึ้นจะส่งผลกระทบไปยังความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตสินค้าในภาคอุตสาหกรรมหรือไม่”

ดังนั้น สมาชิก บสก. รุ่นที่ 11 เห็นถึงความสำคัญในประเด็นที่อยู่ในกระแสสังคมจึงได้จัดงานสัมมนาสาธารณะ ค่าแรงขั้นต่ำขายฝันแรงงานไทย? โดยมีผู้ร่วมเสวนาที่มากประสบการณ์มาร่วมเสวนา ไม่ว่าจะเป็น นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย รศ.ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ที่ปรึกษาฝ่ายการวิจัย นโยบายทรัพยากรมนุษย์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และ นางสุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง กรรมการสมาคมเครือข่ายแรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย) ที่จะมาร่วมพูดคุย หารือ เสนอทางออก เรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในระดับที่เหมาะสมจากมุมมองผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 09.00-12.00 น. ณ ห้อง Convention Hall อาคาร D สถานีโทรทัศน์ Thai PBS

ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทย เปิดเผยต่อ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงกรณีที่พรรคการเมืองใช้นโยบายหาเสียงเรื่องค่าแรงในความเป็นนโยบายเก่าๆ ที่เคยมีมาเป็นสิบปีแล้ว ซึ่งถ้าทำได้จริงก็ต้องมาดูเรื่องเศรษฐกิจไทยและความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนและของประเทศด้วยว่าทำอะไรได้บ้าง

หลังเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศก็ต้องดูว่านโยบายของรัฐบาลจะช่วยภาคธุรกิจให้เข้มแข็งอย่างไร การสร้างสเถียรภาพในด้านแข่งขันของธุรกิจไทย ของผู้ประกอบการไทยตรงนี้ที่สำคัญมากกว่า และจะเอาเม็ดเงินจากตรงไหนไปเพิ่มทั้งค่าแรงและเงินเดือน ซึ่งรัฐบาลใหม่จะต้องมีนโยบายควบคู่ไปด้วย

“นโยบายหาเสียงแบบนี้มีมาโดยตลอด ถามว่าทำได้หรือไม่ ทำได้ยากเพราะเป็นเรื่องที่ภาคเอกชนต้องมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ภาครัฐยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการช่วยเหลือเอกชนให้มีความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเอกชนยังขาดความสามารถในการจ่าย แต่ถ้าทำได้จริงคนที่จะมาเป็นรัฐบาลจะต้องมีส่วนช่วยธุรกิจให้มีรายได้ที่มากขึ้น มีความสามารถที่จะแข่งขันกับคู่ค้าได้ แต่ถ้าทำธุรกิจเหมือนเดิมจ่ายเหมือนเดิมเป็นไปได้ยาก ซึ่งนโยบายของรัฐบาลต้องมาเสริมกับภาคเอกชนถึงจะทำได้จริง”

ลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้าได้ที่ : https://bit.ly/3EHV7FU




กำลังโหลดความคิดเห็น