กลุ่มไทยสมายล์บัสประกาศปรับราคาขายบัตรโดยสารฮ็อปการ์ด (Hop Card) ใหม่ เป็น 60 บาท พร้อมวงเงินในบัตร 40 บาท และปรับลดยอดเงินขั้นต่ำที่แตะบัตรได้ จากเดิม 45 บาท เหลือ 25 บาท มีผล 28 ก.พ.นี้
วันนี้ (27 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด ผู้ประกอบการเดินรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 122 เส้นทาง และเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไมน์ สมาร์ท เฟอร์รี่ (MINE Smart Ferry) 3 เส้นทาง ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.เป็นต้นไป ขอปรับราคาขายบัตรโดยสารที่ชื่อว่า ฮ็อปการ์ด (Hop Card) ใหม่ จากราคาเดิม 20 บาท ซึ่งเป็นบัตรเปล่า ไม่มีเงินในบัตร เป็น 60 บาท ซึ่งจะมีเงินในบัตร 40 บาท สามารถพร้อมใช้งานได้ทันที สามารถติดต่อขอซื้อได้ที่ บัสโฮสเตส (พนักงานต้อนรับ) บนรถโดยสารไทยสมายล์บัส และพนักงานที่ท่าเรือได้เลย
พร้อมกันนี้ ยังได้ปรับลดขั้นต่ำในบัตร Hop Card ที่จะสามารถแตะบัตรเพื่อใช้งานได้ จากเดิม 45 บาท ลดเหลือ 25 บาท เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถใช้งานได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยยังสามารถใช้แพกเกจ เดลิ แมกซ์ แฟร์ (Daily Max Fare) เมื่อชำระค่าโดยสารรถประจำทางไทยสมายล์บัส สะสมครบ 40 บาท หรือเดินทางร่วมกับเรือ MINE Smart Ferry สะสมครบ 50 บาท รับสิทธิค่าโดยสารเหมาจ่ายตลอดวันจนถึงเวลา 24.00 น.ของวันดังกล่าว
สำหรับบัตร Hop Card เป็นบัตรโดยสารที่ใช้กับระบบอี-ทิกเก็ตของกลุ่มไทยสมายล์บัส ออกโดย บริษัท ดิไวน์ คอนเน็ค จำกัด โดยกลุ่มไทยสมายล์บัสนำมาจำหน่ายเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ใช้กับเครื่องอ่านบัตร E60 ที่ติดตั้งบริเวณประตูหน้า และประตูกลางของรถโดยสาร รวม 2 จุด ส่วนการเติมเงิน ใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ดด้านหลังบัตรผ่านแอปพลิเคชัน LINE เลือกจำนวนเงิน (ขั้นต่ำ 50 บาท) และเลือกแอปฯ Krungthai NEXT ธนาคารกรุงไทย หรือพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด แล้วนำมาแตะกับเครื่องอัปเดตยอดบัตร หรือเครื่องออกตั๋วโดยสารอีกที
