"ทนง ขันทอง" วิเคราะห์สถานการณ์ประเทศในตะวันออกกลาง พร้อมใจออกห่างสหรัฐฯ หันเป็นพันธมิตรรัสเซีย-จีน ส่วนอิสราเอลกำลังถูกโดดเดี่ยว
วันที่ 11 ม.ค. 2566 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "ตะวันออกกลางปลดแอกสหรัฐฯ หันถ่วงดุลกับจีน-รัสเซีย"
นายทนงกล่าวในช่วงหนึ่งว่า ปลายเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมามีการประชุมที่กรุงมอสโก ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของตุรกี ซีเรีย และรัสเซีย มีการพูดคุยเพื่อเป็นพันธมิตรกัน โดยทางตุรกีจะเลิกนโยบายล้มรัฐบาลซีเรีย ที่สำคัญทางตุรกีตัดสินใจจะถอนกองทัพตุรกีที่อยู่ในดินแดนของซีเรียออกไปทั้งหมด โดยศัตรูของซีเรียก็จะเป็นศัตรูร่วมของตุรกีด้วย นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตะวันออกกลาง
ซีเรียเป็นประเทศที่มียุทธศาสตร์สำคัญที่สุดในตะวันออกกลาง เพราะมีพื้นที่ตอนเหนือติดตุรกี ตะวันออกติดอิรัก ทิศใต้ติดกับจอร์แดน มีทางออกทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งรัสเซียมองว่าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรับมือกับนาโต้ในอนาคต พื้นที่ตั้งฐานทัพที่ดีที่สุดก็คือซีเรียนั่นเอง
เดิมทีตุรกีให้ความสนับสนุนนาโต้ในการโค่นล้มประธานาธิบดีอัสซาด แต่คงพูดคุยกับปูตินในเชิงลับ เลยเอาใจออกห่างนาโต้ไปเข้าทางรัสเซีย ทำให้สหรัฐฯ ไม่พอใจ มีความพยายามโค่นล้มรัฐบาลตุรกี ซึ่งตุรกีเป็นประเทศในนาโต้ที่กองทัพใหญ่เป็นอันดับ 2 เลยเป็นฐานทัพที่สำคัญของนาโต้ในตะวันออกกลาง
ทิศทางโดยรวม ตะวันออกกลางสงบมากขึ้น ไกล่เกลี่ยกันมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันอิทธิพลของนาโต้ และสหรัฐฯ ลดน้อยลง ทางอิสราเอลก็กำลังจะถูกโดดเดี่ยวในตะวันออกกลาง