วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน (รผด.) เป็นประธานประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2566 มี น.ส.กชพร เวโรจน์ หัวหน้าสาขาพรรคภาคเหนือ พร้อมกรรมการบริหาร สมาชิกเข้าร่วมกว่า 3,000 คน
พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในฐานะหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน ได้กล่าวอวยพรปีใหม่ และขอบคุณสมาชิกที่ร่วมประชุมดังกล่าวก่อนสมาชิกได้รับรองรายงานประชุมสามัญ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2565 พร้อมเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย พล.อ.ชัชชัยภัทรนาวิก, นายชิงชัย ก่อประภากิจ รองหัวหน้าพรรค น.ส.อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายเชนทร์ ภัทรนาวิก กรรมการบริหารพรรค ด้วยมติเอกฉันท์
จากนั้น พล.อ.วิชญ์ได้แถลงนโยบาย 10 ข้อ ประกอบด้วย เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง พัฒนาระบบการศึกษา ส่งเสริมท่องเที่ยวและกีฬา พัฒนาระบบเกษตรกรรม และ พ.ร.บ.สินค้าเกษตร เพิ่มเบี้ยสำรองผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง และ อสม. กระจายอำนาจรัฐสู่ชุมชน สนับสนุนสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม ส่งเสริมประชาธิปไตย ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมสินค้าชุมชนทั่วประเทศ เอสเอ็มอี ฮาลาลสู่สากล ภายใต้วิสัยทัศน์ พัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมประชาธิปไตย รับใช้ประชาชน โดยชูคำขวัญพรรค ว่า “เปลี่ยน…ไปด้วยกัน”
ต่อมาได้แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่บางส่วน จาก 11 เขต เช่น นายสุภคิน วงศ์ษา อดีตนายกเทศมนตรีเมืองต้นเปา อ.สันกำแพง, นายพิพัฒน์พงศ์ เดชา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ อ.เชียงดาว เขต 1, นายสุริยนต์ ปันทะนะ หรือ ส.จ.เต้ ส.อบจ. อ.สันป่าตอง เขต 1 ตามลำดับ
บรรยากาศของการประชุมสามัญ ครั้งที่ 1/2566 พรรครวมแผ่นดินได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชนสมาชิกที่เดินทางมาจากทุกภูมิภาค รวมถึงบุคคลสาธารณะศิลปินดาราได้มาร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมแผ่นดิน ได้แก่ รณฤทธิชัย คานเขต ดารานักแสดงรางวัล 3 ตุ๊กตาทอง และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยโสธร ติดต่อกัน 5 สมัย, ทูน หิรัญทรัพย์ ดารานักแสดงยอดนิยม, เล็ก ไอศูรย์ หรือไอศูรย์ ไมดาน นักแสดง และนายแบบชาวไทยเชื้อสายไทย-เดนมาร์ก-อินเดีย และตฤณ เศรษฐโชค หรือโชคชัย ตันประเสริฐ นักแสดงและผู้จัดละครชื่อดัง
ทั้งนี้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวเพื่อนำเสนอนโยบายต่อสมาชิก เลือกตั้งกรรมการบริหาร และแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ไม่ได้ชิงตัดหน้าพรรคไหน ซึ่งพรรคได้รวมตัวผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน ยืนยันไม่ได้เป็นพรรคสำรอง หรือนอมินีใคร เป็นพรรคของสมาชิกทั้งประเทศ เพื่อดูแลประชาชน ยึดหลักรักสามัคคี ปรองดอง ไม่แบ่งฝ่าย และพร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งการแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครยังไม่เป็นทางการ หลังยุบสภาแล้ว จะประกาศเป็นทางการอีกครั้ง
"รผด.เป็นพรรคเล็ก ไม่ใช่พรรคใหญ่ แต่ตั้งเป้าได้ ส.ส. 25 คน โดยเฉพาะ ส.ส.เขต ส่วนปาร์ตี้ลิสต์มีโอกาสได้น้อย เนื่องจากต้องได้ 390,000 คะแนน ถึงได้ ส.ส. 1 คน จึงหวังประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดเพื่อสร้างโอกาสให้พรรคเล็กมากขึ้น และได้รัฐบาลที่ดีในอนาคต สุดท้ายฝาก รผด.ไว้ในใจประชาชน เพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครมีโอกาสได้เข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และได้รับใช้ประชาชนต่อไป" พล.อ.วิชญ์กล่าว