กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จับมือองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัฒนาระบบบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระดับปฐมภูมิ เพื่อให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล หรือ รพ.สต.ทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่งใช้สมุนไพรกัญชา และกัญชง เพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลผู้ป่วย และประชาชนในชุมชนให้มีสุขภาพดี ตามนโยบายการแพทย์แบบบูรณาการ ปี 2566
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพองค์การบริหารส่วนจังหวัด ด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และการใช้สมุนไพรทางการแพทย์แบบบูรณาการ โดยมี นายแพทย์ ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี และนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร บุคลากรกระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศได้ร่วมจัดงานในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริหาร บุคลากรด้านสาธารณสุขและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีความรู้ ความเข้าใจในด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และสามารถใช้กัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการในการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนาวิชาการในครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้บริหาร บุคลากร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 49 จังหวัด ที่ได้รับการถ่ายโอนไปสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด และบุคลากรจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัด จำนวน 500 คน โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร
นายแพทย์ ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายมุ่งกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ได้ออกประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่องหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน และให้สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และ รพ.สต. สามารถตอบสนองความต้องการทางด้านสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง ซึ่งข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และ รพ.สต. รวมแล้ว 3,263 แห่ง จากจำนวนทั้งสิ้น 9,787 แห่งทั่วประเทศ รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการเร่งรัดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดทิศทางการให้บริการภายใต้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างหลักประกันความต่อเนื่องของบริการ รวมถึงพัฒนาคุณภาพของการบริการสุขภาพในระดับปฐมภูมิที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นี้ 3 ประเด็นหลัก คือ ประชาชนเชื่อมั่น เน้นให้ประชาชนดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วยด้วยยาสมุนไพรเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 บริการเป็นเลิศ ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก เมื่อเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5 และภูมิปัญญาสร้างคุณค่า คือมูลค่าการบริโภคสมุนไพรในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านบาท
นายแพทย์ ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในส่วนการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้วางแนวทางดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้แก่ 1. วิเคราะห์และหารูปแบบการให้บริการประชาชนที่เหมาะสมร่วมกับสหวิชาชีพ 2. กำหนด Service Package ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพ และจัดทำแนวปฏิบัติ (Guideline) ตามกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เช่น กลุ่มคนวัยทำงาน ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs กลุ่มผู้ป่วยระยะกลาง และผู้ป่วยระยะประคับประคอง 3. กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการในแต่ละ รพ.สต. 4. ใช้ศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs และ 5. พัฒนาโปรแกรมในการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่เหมาะสมและสามารถเชื่อมต่อกับกระทรวงสาธารณสุข ในอนาคต กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกหวังว่าประชาชนที่อยู่ในชุมชนจะได้ประโยชน์ในการใช้บริการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศ คือ การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะร่วมสร้างสุขภาวะที่ดีแก่ประชาชนในระดับปฐมภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงหน่วยบริการระดับปฐมภูมิในทุกสังกัดสามารถให้บริการประชาชนด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกไม่น้อยกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศต่อไป
ด้าน นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี และนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การถ่ายโอน รพ.สต.สู่การกำกับดูแลของ อบจ.นั้น การบริหารงบประมาณจะรวดเร็วและคล่องตัวขึ้น บุคลากรใน รพ.สต.มีโอกาสความก้าวหน้าในสายงานเพิ่มมากขึ้น ในตำแหน่งชำนาญการพิเศษ ทำให้เกิดความมั่นคงในอาชีพมากยิ่งขึ้น และยังตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ภาคประชาชน เชื่อมั่นได้ว่าทุก อบจ.จะทุ่มทุนทรัพย์อย่างเต็มที่ให้ รพ.สต.ทุกแห่งขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิตาม พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิภายใน 3 ปี ส่งเสริมสนับสนุนการแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนไทยประยุกต์ บริการกัญชาทางการแพทย์ ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านเวชศาสตร์ครอบครัว เวชกิจฉุกเฉิน และเวชศาสตร์วิถีชีวิต ผลักดันให้มีการจัดสรรงบประมาณของ อบจ.เป็นทุนเพื่อผลิตแพทย์และบุคลากรด้านเวชศาสตร์ครอบครัว ยกระดับการบริการสุขภาพปฐมภูมิทั่วประเทศ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งสู่ Smart Primary Care ช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคประชาชนต่ออนามัยใกล้บ้าน และลดความแออัดการใช้บริการของโรงพยาบาลอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงานครั้งนี้ มีการอภิปรายหัวข้อ ระบบสนับสนุนการบริการประชาชนด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และการใช้สมุนไพรทางการแพทย์แผนไทยให้แก่ รพ.สต.ที่ถ่ายโอนให้แก่ อบจ. การอภิปรายเรื่อง การแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และสมุนไพรในหน่วยงานบริการสุขภาพปฐมภูมิ การบรรยายเรื่อง ตำรับยาสมุนไพร และยาแผนไทยที่สามารถใช้ได้ใน รพ.สต. การบรรยายเรื่อง การใช้น้ำมันกัญชาตำรับเมตตาโอสถและตำรับการุณย์โอสถ และการอภิปรายเรื่อง ประสบการณ์การใช้น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ ในกรณีจำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย เป็นต้น